วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ศิลาลึกลับกับวีรบุรุษ ตอนที่ 1241


ศิลาลึกลับกับวีรบุรุษ ตอนที่ 1241 ไร้ยางอาย







ฉึบ !


เสียงหอกทะลวงพุ่งไปด้านหน้า


ปัง !


อาณาเขตเปลวเพลิงโลหิต ฉีกขาดราวกับกระดาษในทันที ถึงแม้เปลวเพลิงจะยังคงไม่มอดดับไปในทันที แต่มันก็ไม่อาจสกัดกั้นหอกของหลินหมิงได้ หอกฟินิกซ์ยังคงทะยานตรงไปยังเอวของ ซือหยูอวิ้น


ซือหยูอวิ้นยังคงตกตะลึง มีความไม่เชื่อในดวงตาฉายชัดออกมาให้เห็นเด่นชัด  ถึงกระนั้นสัญชาตญาณยังร้องบอกเธอว่าหอกนี้ของหลินหมิง ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นภายนอกแน่นอน !


  ขวับ !  


ซือหยูอวิ้น ยกอาวุธเคียวในมือขึ้นมาป้องกันในทันที ถึงแม้เคียวอาจะดูเป็นอาวุธที่ดูเจ้าเล่ห์มากที่สุดในบรรดาอาวุธชนิดอื่น แต่ในการปะทะกัน มันยังคงด้อยกว่าดาบ


เคร้ง!


อึก !

 

ซือหยูอวิ้น มือชา พร้อมกับร่างที่เซถอยไปด้านข้าง    หากนี่เป็นการต่อสู้ระยะประชิด ผลที่ออกมามันคงเลวร้ายยิ่งกว่า  


ฟุบ !


หลินหมิง เปิดใช้ก้าวย่างฟินิกซ์ในทันที ระยะห่างระหว่างทั้งสองสั้นลงใพริบตา!


หอกฟินิกซ์ เหวี่ยงฟาดออกในทันที !


เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!


ผลจากการปะทะครั้งแล้วครั้งเล่า มือของซือหยูอวิ้นเริ่มด้านชามากขึ้น มากขึ้น แขนของเธอเริ่มแดงกล่ำราวเลือด.


เคร้ง ! เคร้ง! เคร้ง!


หลินหมิง ยังคงแทงหอกฟินิกซ์อย่างต่อเนื่อง ในการแทงแต่ละครั้งมันมีทั้ง ความรุนแรงที่มากขึ้น ความดุดัน และเจตนาสังหาร บังคับให้ซือหยูอวิ้นต้องตั้งรับอย่างเดียว ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะโต้กลับ !


 กฎ ธาตุไฟที่เธอภูมิใจ ถูกต้นอ่อนเทพอสูรสยบ  ! อาณาเขตเปลวเพลิงโลหิต ถูกหลินหมิงฉีกกระชาก!

  

การต่อสู้โดยอาวุธเคียว ที่ยากต่อการคาดเดา ถูกบังคับโดยการต่อสู้ระยะประชิด มันจึงทำให้ซือหยูอวิ้นไม่สามารถแสดงความสามารถที่แท้จริงได้!


มันคือการสยบรอบด้านอย่างแท้จริง !


เหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ทั้งหลายที่มองดูการต่อสู้นี่อยู่ ต่างอึ้ง งง อ้าปากค้าง ไม่สามารถกล่าวคำใดใดได้ นี่คือซือหยูอวิ้น คนที่ฝาแฝดสาวผู้จัดการประลอง กล่าวว่าเธอคือผู้เยาว์อัจฉริยะอันดับ1ของโลกแสงสีชาดจากพิภพนักสู้ที่แท้จริง ! แล้วทำไมสภาพของซือหยูอวิ้นในตอนนี้ถึงดูเอน็จอนาจนักเล่า!


นี่ หลินหมิงเขาแข็งแกร่งมากขนาดนี่เลยเหรอ?. คู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่ผู้เยาว์อัจฉริยะอันดับ1ของโลกแสงสีสาดเหรอ?. อีกอย่างทำไมข้าไม่เคยได้ยินชื่อหลินหมิงจาก10,000อันดับในตราประทับเทพเลยหล่ะ?.”

 

ผู้เข้าร่วมนับแต่อันดับ10,000จากตราประทับเทพ ทุกคนล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งทั้งนั้น และอีกอย่างรายชื่อในตราประทับเทพนั้น มันแสดงเพียงอันดับ ไม่ได้บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแต่ละบุคคล .”

 

นี่มันจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ! นี่มันชั้นที่23นะ! แท่นผนึกเทวะ ไม่มีผลกับเขาเลยรึ!.”

 

ทุกคนสามารถบอกได้ว่า หลินหมิงที่อยู่ต่อหน้าพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าซือหยูอวิ้นมากนัก อีกทั้งดูเหมือน นี่อาจจะไม่ใช้ความสามารถที่แท้จริงของหลินหมิงด้วยซ้ำ!

 

นี่! หลินหมิง เขาเติบโตถึงขนาดนี่เชียวรึ!?” ซือจ้านอวิ้นกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาพบว่ามันเชื่อได้ยาก ย้อนกลับไปในอดีต หลินหมิงในขั้นทำลายชีวิตระดับ7 เอาชนะร่างแยกขั้นทำลายชีวิตระดับ8ที่เขาทิ้งไว้ได้ พรสวรรค์ของเขาน่าจะถึงขีดจำกัดแล้วไม่ใช่รึ? พรสวรรค์ของเขามันไม่น่าจะดีไปกว่านี้แล้ว อีกทั้งลูกสาวข้าก็มีพรสวรรค์เช่นเดียวกัน แล้วทำไมความแข็งแกร่งมันจึงแตกต่างกันมากขนาดนี้!

 

เจ้า!... เจ้าจำเอาไว้ สักวันหนึ่งข้าจะเผาเจ้าให้เป็นจุลให้ได้!” ซือหยูอวิ้นตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง นี่ไม่ใช่การกล่าวคำขู่ใดใด มันเป็นเพียงเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่อับอายและโกรธจนหน้าดำหน้าแดงเท่านั้น!

ตั้งแต่เด็กเธอนั้นถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ อีกทั้งบิดาของเธอยังเป็นบุคคลระดับสูงจากโลกแสงสีชาดและมารดาของเธอยังเป็นเทพธิดาสายเลือดบริสุทธิ์จากเผ่าฟินิกซ์โบรารณ มันไม่แปลกหากเธอจะเหย่อหยิ่ง อีกทั้งพรสวรรค์ของเธอนั้นยังน่าทึ่งเป็นอย่างมาก ดังนั้นเธอเองจึงมีสิทธิที่จะภาคภูมิใจและเอาแต่ใจ

 

อืม..ถ้าความแข็งแกร่งของเจ้า มันเทียบเท่ากับความหยิ่งและความภาคภูมิใจของเจ้า ..ข้าคงให้เจ้าเผาข้าตามความต้องการของเจ้า...น่าเสียดาย ที่เจ้าไม่มีความสามารถนั้น! .”

 

สึบ!

 

หอกฟินิกซ์ของหลินหมิง แทงตรงไปข้างหน้าซือเสวี่ยวเอ่อร์อีกครั้งในทันที! หอกฟินิกซ์พุ่งผ่านเคียวแสงอย่างง่ายดายและมันยังคงพุ่งตรงไปหาซือหยูอวิ้น!

 

อาณาเขตเปลิวเพลิงหิต เปิด!

 

ซือหยูอวิ้นเปิดใช้อาณาเขตเปลิวเพลิงโลหิตอีกครั้ง พร้อมกับเคียวในมือยกขึ้นมาป้องกันหอกของหลินหมิง แต่กระนั้นมันยังคงเป็นความพยายมที่เปล่าประโยชน์ ถึงแม้ว่าหากซือหยูอวิ้นไม่ได้รับบาดเจ็บหรืออยู่ในสภาพเต็ม100 เธอยังไม่สามารถป้องกันหอกฟินิกซ์ของหลินหมิงได้!

 

ปัง!

 

เกราะลมปราณของซือหยูอวิ้น หยุดหอกฟินิกซ์ได้เพียงชั่วขณะก่อนจะแตกสลายลงไป!.

 

 

ป้าป !

 

 

หอกฟินิกซ์ของหลินหมิง ยังคงพุ่งตรงต่อไป ก่อนจะฟาดลงบนก้นของซือหยูอวิ้น !.


การใช้เพียงส่วนที่ไม่มีคมของหอก ฟาดลงไปนั้นมันไม่ต่างอันใดกับการโดนไม้หน้าสามฟาด!

 

กรี้ดด.....!

 

ซือหยูอวิ้นกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เธอรู้สึกราวกับก้นของเธอโดนไฟลวก !

 

หลังจากซือเสี่ยว์เอ่อร์สัมผัสบริเวณก้น เธอจึงได้รู้ว่าก้นของเธอมีเปลวไฟกำลังลุกไหม้อยู่จริง!.

 

อ้าห์..อา.....อ้า.......

 

ซือหยูอวิ้น เริ่มตื่นตระหนก กระโปรงของเธอมันทำมาจากหนังแรดศักดิ์สิทธิ์อายุ10,000ปี ความทนทานของมันเทียบเท่ากับสิ่งประดิษฐ์ระดับนักบุญชั้นยอด แต่มันกับไม่สามารถทนการโจมตีต่อเนื่องจากหอกของหลินหมิงได้! แล้วหากเป็นเช่นนี้ต่อไป สะโพกและก้นของเธอคงไม่พ้นเปิดเผยออกมาต่อหน้าฝูงชนรึ!

 

ท่ามกลางเหล่าผู้ชมทั้งหลายที่มองเห็นสภาพของซือหยูอวิ้นในตอนนี้ ต่าง อ้าปากค้าง

 

นี่...นั้นใช่กระโปรงกำลังไหม้...ใช่มั้ย?”

 

อัจฉริยะรุ่นเยาว์อันดับ1จากโลกแสงสีชาด ผู้ที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจจากสวรรค์ กับถูกผู้อื่นตีก้นจริงๆ!

 

อ้า...อาห์!” “เจ้า...เจ้า...ข้า...ข้าจะฆ่าเจ้า...

 

ซือหยูอวิ้น แทบจะกลายเป็นบ้าไปแล้ว.

 

นี่มันจะกลายเป็นความอัปยศ! ต่อหน้าฝูงชนนับพันล้านคน แต่เธอกับถูกผู้ชายตีก้น!

 

การกระทำของหลินหมิงนั้น มันเปรียบเสมือนผู้ใหญ่ลงโทษเด็กน้อย เปรียบเสมือนพ่อแม่ลงโทษบุตรของตน ตั้งแต่เยาว์วัยเธอถูกตามใจมาตลอด เธอเคยถูกกระทำเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยเฉพาะต่อหน้าผู้คนนับพันล้าน?!

 

ซือหยูอวิ้นยังจำได้แม่น ก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้น หลินหมิงเคยบอกไว้ว่า ข้าจะอบรมเจ้าแทนมารดาของเจ้าเอง

 

เพียงแค่ซือหยูอวิ้นคิดถึงคำกล่าวของหลินหมิง ไฟแห่งความโกรธแทบจะระเบิดออกมาจากใจเธอ

 

ซือหยูอวิ้นโกรธมากจนแทบจะบ้าคลั่ง ที่มากกว่านั้นมันคือความอับอาย อับอายเป็นอย่างมาก เพียงแค่นึกว่า เหตุการณ์ในวันนี้มันจะแพร่กระจายไปทั่วพิภพทั้งในโลกนักสู้แท้จริงหรือมันอาจจะกระทั่งเผยแพร่ไปในหมู่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป จากการเล่าปากต่อปาก เธอคงกลายเป็นตัวตลกของผู้คนไปทั่ว ถึงแม้ว่าเธอจะกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุดในโลกแสงสีชาดในภายหลัง ต่อหน้าเธอคงไม่มีใครกล้ากล่าวถึง แต่มันคงมีการกล่าวถึงเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ! อีกทั้งหลังจากนี้เธอยังต้องต่อสู้กับผู้อื่นอีก คู่ต่อสู้ของเธอคงไม่พ้นต้องเยาะเย้ยและเอาเหตุการณ์นี้มายั่วยุเธอแน่นอน!

 

ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!” ซือหยูอวิ้น กระโดดพุ่งเข้าหาหลินหมิงดังนางแมวป่าบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งมันห่างกันมากเกินไป !

 

ฟุบ!

 

หอกฟินิกซ์ยังคงฟาดผ่านเคียวแสงอย่างง่ายดายและพุ่งตรงไปที่ก้นเช่นเดิม !

 

กรี้ดดด....!

 

เมื่อซือหยูอวิ้นเห็นหอกของหลินหมิงฟาดตรงมาที่ก้นของเธออีกครั้ง เธอกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก!

 

ปังง..! เกราะลมปราณแตกสลาย

 

อักก..!กรี้ดดดดด!

 

การฟาดด้วยหอกในครั้งนี้มันรุนแรงมากกว่าครั้งก่อน!

 

 ซือหยูอวิ้นกรีดร้องพร้อมกับร่างกระเด็นลอยออกไปข้างหลัง!

 

ฟุบ! ก้าวย่างฟินิกซ์

 

หลินหมิงพุ่งร่างตามไปในทันที!.

 

ในความเป็นจริงหากซือหยูอวิ้น ยอมรับความพ่ายแพ้ การต่อสู้ของทั้งสองคงจบลงเพียงเท่านี้ แต่ด้วยความดื้อรั้นของซือหยูอวิ้นเธอกับไม่ยอมเปิดปากกล่าวคำว่ายอมแพ้ออกมา ! คำว่ายอมแพ้สำหรับซือหยูอวิ้น นับว่าเป็นความละอายเช่นกัน!

 

หลินหมิงปรากฏตัวตรงหน้าซือหยูอวิ้นในทันที! แต่ในขณะที่หลินหมิงกำลังจะฟาดหอกฟินิกซ์ลงไปนั้น หลินหมิงมองเห็นเศษเสี้ยวความวิงวอนจากนัยน์ตาทีกำลังโกรธจัดของซือหยูอวิ้น เธอกลัว! หากหลินหมิงฟาดลงมาที่ก้นเธออีกเพียงครั้งเดียว กระโปรงหนังแรดศักดิ์สิทธิของเธอคงถูกฉีกขาดเป็นแน่ ถึงแม้เธอจะสามารถสร้างกระโปรงจากกฎธาตุไฟได้ แต่มันคงไม่แข็งแกร่งเท่ากับกระโปรงจากหนังแรดศักดิ์สิทธิ และมันคงเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่เธอจะป้องกันสะโพกและก้นของเธอ ไม่ให้เปิดเผยต่อหน้าฝูงชน!

 

 พอแล้ว!” ณ เวลานี้เสียงคำรามอย่างโกรธเคืองดังขึ้น

 

ทันใดนั้น แสงกระพริบสีแดงพุ่งจากลานอัศจรรย์มุ่งหน้าลานผนึกเทวะพร้อมกับคลื่นพลังมหาศาล เพ่งเล็งไปที่หลินหมิงในทันที หลินหมิงรู้สึกราวกับภูเขาขนาดมหึมากำลังกดทับลงมา แม้แต่มือที่จะยกหอกฟินิกซ์ยังแทบจะไม่สามารถขยับได้ ราวกับติดอยู่ในแม่เหล็ก

 

หืม?”

 

หลินหมิงขมวดคิ้ว หลังจากหันไปมองหลินหมิงเห็นชายวัยกลางคนผมสีแดง ลอยอยู่ห่างออกไปประมาณหลายร้อยหรืออาจจะหลายพันฟุต กลิ่นอายของชายผู้นี้มีความคล้ายคลึงกับซือหยูอวิ้นอยู่หลายส่วน มันเห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้มีความเกี่ยวข้องกับซือหยูอวิ้นอย่างแน่นอน!

 

ซือจ้านอวิ้นหลินหมิงพึมพำออกมาเบาๆ

 

สีหน้าซือจ้านอวิ้นค่อนข้างมืดมน ถึงแม้ว่าเขานั้นอยากให้ซือหยูอวิ้นประสบกับความลำบากบ้าง แต่มันคงไม่ใช่ในลักษณะนี้แน่นอน ในฐานะบิดาคงไม่มีผู้ใดเห็นบุตรสาวตัวเองได้รับความอัปยศเช่นนี้แน่!

 

ท่านพ่อ!”

 

ท่านพ่อ ฆ่ามัน เผามัน ฉีกกระชากมันให้เป็นชิ้นๆ

 

ซือหยูอวิ้นร้องบอกกล่าวกับบิดาจนหน้าดำหน้าแดง

 

หุบปาก!” ซือจ้านอวิ้นตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง นี่ยังอับอายขายขี้หน้าไม่พออีกรึ!”

 

เจ้าอ่อนแอกว่าผู้อื่น ถึงจะถูกเหยียดหยามจากผู้อื่น เจ้ามีสิทธิโต้แย้งใดใดรึ ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว อย่าหยิ่งยโส อย่าโอ้อวดเกินตัว เจ้าเคยฟังบ้างไหม?”

 

ฟุบ !

 

ในขณะที่ซือจ้านอวิ้นกำลังว่ากล่าวซือหยูอวิ้นนั้น ร่างร่างหนึ่งปรากฏตัวออกมาต่อหน้าซือจ้านอวิ้นราวกับภูตผี กลิ่นอายของร่างนี้นั้น แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มันดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากกว่าซือจ้านอวิ้น เปรียบเหมือนภูเขาอันกว้างใหญ่กำลังกดทับอยู่บนศีรษะซือจ้านอวิ้น!


ชายผู้นี้เพียงเหลือบมองซือจ้านอวิ้น ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ ที่นี่เป็นงานประลองยุทธ์ของอาณาจักรสวรรค์ครั้งแรกผู้ไม่มีส่วนในการประลองไม่มีสิทธิก้าวก่ายไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าหยาบคาย!”

 

ชายคนนี้คือ ศิษย์สายตรง ของราชันสวรรค์พิภพเอกอนันต์!

 

ในฐานะศิษย์สายตรง ของราชันสวรรค์พิภพเอกอนันต์ ต่อให้จักรพรรดิโลกแสงสีชาดมาด้วยตัวเอง ชายผู้นี้ยังไม่แยแส นับประสาอะไรกับชนชั้นผู้ปกครองศักดิ์สิทธิ! คำพูดใดใดที่กล่าวออกมาจึงไม่มีแม้แต่ความยำเกรงใดใดทั้งสิ้น!

 

ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งของโลกแสงสีชาดหรือความแข็งในส่วนตัวบุคคล มันยังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!

 

ข้าขอโทษผู้อาวุโส... ผู้เยาว์คนนี้ขอถอนตัวออกจากการแข่งขันในทันที!”ซือจ้านอวิ้นกล่าวออกมาอย่างนอบน้อม

 

 

เมื่อเผชิญหน้ากับศิษย์สายตรงของราชันสวรรค์พิภพเอกอนันต์ ซือจ้านอวิ้นยังต้องทำตัวค่อมต่ำ โลกแสงสีชาดนั้นนับเป็นแดนศักดิ์สิทธิในระดับที่3เท่านั้น ส่วนพิภพเอกอนันต์นั้นเป็นแดนศักดิ์สิทธิอันดับ1 ต่อหน้าคนจากพิภพเอกอนันต์ ตัวเขานับเป็นอะไรได้!

 

ท่านพ่อ, ข้า…”

 

หางตาของซือหยูอวิ้นเปียกชื้นในทันที มันแทบจะมีน้ำตาไหลออกมา เธอนั้นอับอายมาก มากจนไม่อยากยืนอยู่บนแท่นผนึกเทวะอีกต่อไป

 

สีหน้าซือจ้านอวิ้นค่อนข้างเย็นชาก่อนจะกล่าวว่า การต่อสู้อย่างตรงไปตรงมาและยุติธรมนั้น สำหรับข้า ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าย่อมผ่านมันไปได้ แต่หากเจ้าไม่สามารถต่อสู้ชนะจนถึงรอบรองชนะเลิศได้ ข้าจะขังเจ้าไว้100ปี ส่วนการต่อสู้ในครั้งนี้ เจ้าจำเอาไว้เป็นบทเรียนซะ และนอกจากนี้....

 

ซือจ้านอวิ้นหันไปมองหลินหมิงก่อนจะกล่าวต่อว่า สำหรับเจ้า...สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จงจำมันไว้...

 

หลังจากกล่าวคำเหล่านี้ ซือจ้านอวิ้นจึงลอยตัวออกไป อันที่จริงคำกล่าวหลังสุดนั้น มันเป็นเพียงการรักษาหน้าของเขาเท่านั้น เขานั้นไม่สามารถทำอะไรหลินหมิงได้ ด้วยความแข็งแกร่งและผลงานของหลินหมิงในงานประลองยุทธ์รุ่นเยาว์อัจฉริยะของอาณาจักร์สวรรค์ครั้งแรกนั้น เรืองรองและรุ่งโรจน์อย่างมาก ไม่มีทางใดที่เขาจะเล่นงานหลินหมิงได้

 

ในกลุ่มรุ่นเยาว์เผ่าฟีนิกซ์โบราณ ต่างอึ้งและตกตะลึงเมื่อเห็นภาพฉากนี้

 

เจ้าหนุ่มนี่……ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก..ฮัวเล่ยสือกล่าว แต่...ข้าชอบมัน!ฮ่า..ฮ่า ฮ่า..

 

การโจมตีทั้งสองครั้งนั้น มันยอดเยี่ยมจริงจริง ..ข้าเหม็นขี้หน้าเจ้าพวกคนจากโลกแสงสีชาดมานานแล้ว ส่วนนังหนูน่ารังเกียจคนนั้น ..มันสมควรถูกตีก้นต่อหน้าสาธารณะชนแล้ว!”

 

คำกล่าวเหล่านี้ มันเป็นการพูดให้เพียงผู้ที่อยู่รอบตัวเขาเท่านั้นฟัง แต่เมื่อเทพธิดาเฟิงกับตาแก่เหวินได้ยินทั้งสองถึงกับพูดไม่ออก


                                                                                         by nsn

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Facebook