วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ศิลาลึกลับกับวีรบุรุษ 1247

 

Chapter 1247 – วีรบุรุษหนุ่ม

 

 

หลังจากหลินหมิงชี้หอกฟินิกซ์ไปทางโยวซูจิน เหล่าศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬ ต่างโกรธจัดขึ้นมาในทันที ดวงตาของพวกเขาแดงกล่ำ ในรอบก่อนรองชนะเลิศการต่อสู้ครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์บนโลกคำสาปจันทรา ศิษย์พี่โยวซูจินของพวกเขาทำผลงานติดอันดับต้นมาโดยตลอด แล้วจะให้พวกเขาทนการยั่วยุซึ่งหน้าเช่นนี้ได้อย่างไร !



เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำซะแล้ว!”



เขามันบ้า! เขากล้าท้าทายศิษย์พี่โยว่ซูจินจริงๆ เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร!?”



เขาแค่ต้องการมีชื่อเสียง! เขาคิดว่าเขาสามารถเทียบกับศิษย์พี่โย่วซูจินได้รึ ฮึ ฮึ ฮึ เขานั้นคิดผิดแล้ว !.”



รอจนศิษย์พี่ตีก้นมันจนแดงเถือกก่อนเถอะ !.”



ไม่มีใครมองหลินหมิงดีซักคน ในฐานะศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬ พวกเขาย่อมหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง อีกทั้งพวกเขายังเห็นโยวซูจินในฐานะตัวแทนจากดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬทำผลงานได้ดีเยี่ยมมาตลอด และนี่นับเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขาเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาย่อมเข้าข้างและสนับสนุนโยวซูจินจนออกนอกหน้า และ พร้อมที่จะเยาะเย้ยหลินหมิงที่แสดงความเหย่อหยิ่งเช่นนี้



ไม่เว้นแม้แต่เหล่าศิษย์จากเผ่าฟีนิกซ์โบราณ พวกเขาเองยังขาดความมั่นใจเช่นกัน.



ศิษย์พี่หลินมั่นใจเกินไปรึไม่ เขานั้นเลือกต่อสู้กับโยวซูจินแทนที่จะเลือกยอดนักดาบประกายโลหิต......



เจ้าจะกังวลไปทำไม?  ศิษย์พี่หลินกล้าท้าทายโยวซูจิน เขานั้นย่อมมีไพ่ตายบางอย่างอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นการได้ต่อสู้จริง มันย่อมทำให้เขาตื่นเต้นมากกว่า มันไม่แปลกหากเขาจะท้าท้ายคนที่แข็งแกร่งที่สุด.....”



ถูกต้อง ! มันไม่สำคัญว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้ ที่สำคัญคือจิตวิญญาณต่อสู้ของเขาจะไม่อ่อนแอลง ยอดนักดาบประกายโลหิตนับเป็นอะไรได้ ถ้าจะสู้มันต่องสู้กับคนที่แข็งแกร่งที่สุดถึงจะถูก !”



ใช่ ใช่ ศิษย์พี่หลินชี้หอกท้าทายโยวซูจิน อย่างองอาจกล้าหาญจริงๆ !”



เหล่าศิษย์หญิงจากเผ่าฟินิกซ์โบราณจ้องมองหลินหมิงชี้หอกท้าท้ายโยวซูจิน ภาพที่เห็นตรงหน้ามันช่างองอาจเหี้ยมหาญและเร่าร้อนยิ่งนัก สายตาของพวกเธอบ่งบอกถึงความคลั่งไคล้.



ในช่วงเวลานี้บนแท่นผนึกเทวะชั้นที่31 หลินหมิงในชุดคลุมสีดำ ยืนหลังตั้งตรงราวกับหอก ชุดคลุมและผมของเขาปลิวไสวไปกับสายลมดวงดาว ดวงตาของเขาปรากฏสายฟ้าแลบผ่านเป็นระยะระยะ ใบหน้าของเขาดูเฉยชา หน้าผากกว้างดุจดังหินผา และ กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาดูแหลมคมราวกับดาบ

 

นี่คือชายหนุ่มคนหนึ่ง ภายใต้สายตานับพันล้านคู่ เขากล้าที่จะท้าทายอัจฉริยะ1ใน100ของโลกนักสู้ที่แท้จริงและยังเป็นผู้มีโอกาสที่จะกลายเป็นตัวตนระดับราชันพิภพในอนาคต 1ในอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุด !



ทุกครั้งที่มีโอกาสเข้าใกล้ขีดจำกัดของตัวเอง และ ในยามนี้มันคือขีดจำกัดสูงสุดของหลินหมิง !.



วีรบุรุษผู้กล้าหาญกำลังจะแสดงความรุ่งโรจน์ของเขา !



ตัวตนเช่นเขาย่อมมีอนาคตอันไร้ขีดจำกัด ด้วยความแข็งแกร่งและศักยภาพอันเยี่ยมยอด ประกอบกับหน้าตาอันคมคาย มันนับเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเหล่าหญิงสาวนับไม่ถ้วนจะตกหลุมรักเขา



ฮ่า ฮ่า ฮ่า น่าสนใจ เทียนหมิงจือ ม้ามืดที่เจ้าสนใจกำลังท้าทายศิษย์อันดับ1จากดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬของเจ้า ?.”



ในพระราชวังราชันสวรรค์เอกอนันต์ เหล่าตัวตนทรงพลังจากจักรวาลอันกว้างใหญ่รวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ เฝ้าชมและสังเกตุการต่อสู้ผ่านกระจกคริสตัลบานใหญ่  ในรอบก่อนรองชนะเลิศนี้ มันอาจกล่าวได้ว่ามันเป็นเรื่องยากอย่างมาก ที่จะดึงดูดความสนใจจากตัวตนทรงพลังเหล่านี้



เทียนหมิงจือยิ้มล็กน้อยไม่ได้กล่าวโต้ตอบใดใดออกมา



ราชันเอกไพศาลกล่าวต่อว่า เจ้าหนุ่มผู้นี้ดูองอาจและเหี้ยมหาญใช้ได้ แต่สุดท้ายแล้วเขาคงไม่อาจเทียบกับหลานโยวซูจินได้หรอก หลานโยวซูจินนั้นเป็นคนที่มีโอกาสติด10อันดับแรกบนตราประทับสวรรค์ ในการประลองครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์ !”



การต่อสู้ครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์ จากพิภพนักสู้ที่แท้จริง มันจะมีอันดับประกาศออกมา2อย่าง อันแรกคือตราประทับเทพ ซึ่งตราประทับเทพมันจะรวมอันดับของผู้เข้าร่วมจาก3000โลกและผลงานจากเหล่าศิษย์ของราชันพิภพด้วย

 

ตราประทับเทพมันเป็นเพียงอันดับของผู้เข้าร่วมและบุตรหลานและศิษย์ของราชันพิภพจาก3000โลกเท่านั้น มันยังไม่รวมถึงบุตรหลานและศิษย์หลักของเหล่าราชันสวรรค์

 

 

อีกหนึ่งคือตราประทับสววรค์ !



คำว่า heaven หมายถึงสวรรค์และสื่อถึงราชันสวรรค์.

 


ท้ายที่สุดมันย่อมไม่เป็นการยุติธรรมซักเท่าไหร่หากนับรวมอันดับกับเหล่าบุตรหลานและศิษย์หลักของราชันสวรรค์.พวกเขาเหล่านั้นนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะขั้นสูงสุดแล้ว

 

ดังนั้นการมีโอกาสติด10อันดับแรกบนตราประทับสวรรค์ จึงนับได้ว่าประสบความสำเร็จสูงสุดแล้ว

 

เมื่อราชันพิภพกล่าวถึง3อันดับแรกหรือ10อันดับต้นบนตราประทับสวรรค์ พวกเขาเหล่านี้ย่อมได้รับเกียรติและได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากเหล่าตัวตนทรงพลัง และยังได้รับสิทธิในการเข้าบ่มเพาะและยังมีโอกาสได้รับคำแนะนำโดยตรงจากราชันสวรรค์ที่พระราชวังสวรรค์ของราชันสวรรค์อีกด้วย



นี่นับเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเช่นกัน ตัวอย่างเช่น มู่ชียนสวี่ยน เธอนั้นเดิมมาจากพระราชวังสวรรค์พิภพรุ่งอรุณปีศาจซึ่งมันย่อมมีความแข็งแกร่ง ทรัพยากร และทักษะศักดิ์สิทธิสูงสด ไม่ด้อยไปกว่าพระราชวังเอกอนันต์เช่นกัน  .



ขณะที่ราชันพิภพเอกไพศาลกล่าวจบ ราชันพิภพอีกคนกล่าวต่อว่า หากหลานชายโยวซูจิน มีความแข็งแกร่งไร้ขีดจำกัดและผลงานดีจริง เขาย่อมสามารถเข้าสู่พระราชวังสววรค์ได้อย่างแน่นอน .”

 

บางทีมันอาจจะไม่มีใครสามารถเข้ามาแย่งสิทธิดังกล่าวก็เป็นได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”



 เหล่าราชันพิภพที่อยู่ใกล้กันกล่าวออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ ต้องกล่าวว่า เขากำลังหาโอกาสเข้าหาเทียนหมิงจื่อ ประกอบกับ โยวซูจินทำผลงานได้ดี นี่จึงนับเป็นโอกาสอย่างหนึ่ง สำหรับตัวตนเช่นเทียนหมิงจือเขาอยากสร้างสัมพันธ์อันดีด้วยเป็นอย่างยิ่ง  เทียนหมิงจือในปัจจุบันนับเป็นตัวตนที่มีอนาคตสดใสมากที่สุดในเหล่าราชันพิภพ ความสำเร็จในอนาคตของเขานับได้ว่ากว้างใหญ่ราวกับห้วงจักรวาล  !



นอกจากนี้ เทียนหมิงจื่อยังมีความสัมพันธ์อันดียิ่งกับพระราชวังสวรรค์รุ่งอรุณปีศาจ อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากราชันสวรรค์รุ่งอรุณปีศาจ เหตุผลหลักๆก็คือเมื่อหลายหมื่นปีก่อนเขาเคยเข้าไปบ่มเพาะที่พระราชวังสวรรค์รุ่งอรุณปีศาจเป็นเวลานาน.



และในปัจจุบันศิษย์ของเขายังมีโอกาสเข้าไปบ่มเพาะที่พระราชวังสวรรค์เช่นกัน ดังนั้นการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลเช่นนี้ย่อมมีความสำคัญอย่างมาก !

…………..

ณ เวลานี้บนแท่นผนึกเทวะ เสียงมู่เชียนเสวี่ยนดังก้องในหูของหลินหมิง หลินหมิง ภูมิหลังเดิมของเทียนหมิงจือ คือดินแดนศักดิ์สิทธิขนนกเขียว และดินแดนศักดิ์สิทธิขนนกเขียวเชี่ยวชาญ กฎ มิติ เวลาและน้ำแข็ง ดังนั้นในฐานะทายาทเทียนหมิงจื่อ โยวซูจินย่อมมุ่งเน้นไปที่กฎ ดังกล่าวเช่นกัน.”



เข้าใจแล้วหลินหมิงเคยเห็นโยวซูจินต่อสู้กับร่างวิญญาณมายาบนแท่นผนึกเทวะมาก่อน ในยามนั้นเขาสังเกตเห็น แสงสามสีปรากฏออกมามาขณะต่อสู้ แสงสามสีดังกล่าวมันเปรียบเสมือนตัวแทนจาก กฎ แต่ละอย่างที่โยวซูจินเข้าใจ แม่นางมู่ ข้าคาดเดาว่าทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิขนนกเขียว ย่อมตกอยู่ในมือของเทียนหมิงจือแล้ว มันไม่แปลกหากโยวซูจินจะบ่มเพาะมัน ?” หลินหมิงกล่าว



เมื่อหลินหมิงกล่าวถึงทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิขนนกเขียว ความเกลียดชังปรากฏขึ้นในดวงตาของมู่เชียนเสวี่ยนในทันที ใช่ มันย่อมเป็นเช่นนั้น ทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิขนนกเขียว มันสมบูรณ์ยิ่งกว่าทักษะศักดิ์สิทธิจากโลกนักสู้ที่แท้จริงมากนัก ถึงกระนั้นมันก็เป็นเพียงทักษะสนันสนุนเท่านั้น ความสำคัญของมันในการใช้ต่อสู้จริง มีเพียงเล็กน้อย ดังนั้นเจ้าสามารถเมินเฉยได้ไม่มากก็น้อย .”



โอ้?” ความคิดของหลินหมิงสั่นคลอนเล็กน้อย เขานั้นเคยคิดว่าทักษะเสริมมันช่วยเหลือเขาได้มากกว่าทักษะโจมตี ความสามารถเหล่านี้มันอาจจะส่งผลต่อความสำเร็จในอนาคตก็ได้ อีกทั้งหากมันเป็นทักษะเสริมการโจมตีด้วย มันยิ่งทำให้การโจมตีของเขาแข็งแกร่งมากขึ้นไม่ใช่รึ .



ดังเช่นทักษะศักดิ์สิทธิขั้นสูงสุด ต้นกล้าเทพอสูร หากปราศจากมันหลินหมิงคงไม่สามารถผสานกฎธาตุไฟกับกฎสายฟ้าได้ อีกทั้งเขาคงไม่สามารถเอาชนะทัณฑ์สายฟ้าและไฟได้อีกด้วย.



เข้าใจแล้ว สักวันหนึ่ง ข้าจะนำทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิขนนกเขียวกลับคืนมา !”



ขณะหลินหมิงกำลังสนทนากับมู่เชียนเสวี่ยน กลิ่นอายอันแข็งแกร่งจากตัวโยวซูจินปะทุขึ้นมาในเวลาเดียวกัน!



ณ เวลานี้บนแท่นผนึกเทวะ โยวซูจินในชุดคลุมสีดำ ดูราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และปฐพี แม้แต่เหล่าผู้ชมบนอัศจรรย์อันห่างไกล ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของโยวซูจิน พวกเขาในยามนี้รู้สึกราวกับมีกริชอันแหลมคมจ่อที่ศีรษะของพวกเขา มันให้ความรู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาในทันใด !



นี่คือเจตจำนงสังหารของโยวซูจิน เจตจำนงอันเข้มข้นและมืดดำ กวาดผ่านไปทั่วอัศจรรย์ผู้ชมและแท่นผนึกเทวะ !



ช่างเป็นเจตจำนงสังหารที่รุนแรงอะไรขนาดนี้  เพื่อที่จะได้เจตจำนงสังหารขนาดนี้ เขาต้องสังหารผู้คนมามากมายเท่าไหร่?!”



นี่มันจะไม่น่ากลัวไปหน่อยรึ? นี่มันชั้นที่31นะ แรงกดดันจากแท่นผนึกเทวะไม่มีผลกับเขาเลยรึ ถึงแม้แรงกดดันมันอาจะดุูน้อยกว่าตอนปีนขึ้นมาก็ตาม จริงจริงแล้วแก่นแท้ ร่างกายและวิญญาณของเขาสมควรถูกระงับไว้ในระดับหนึ่งไม่ใช่รึ ?…”

 

แม้แต่ฮัวเล่ยสือ ที่เชื่อเสมอว่าคนของตัวเองแข็งแกร่งและทำผลงานได้น่าทึ่งเสมอมา ยังแสดงสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยคำชมและตกตะลึง เขาอดไม่ได้ที่จะยอมรับความแข็งแกร่งของโยวซูจิน.


สำหรับเหล่าศิษย์จากนภาทมิฬ พวกเขาต่างส่งเสียงตะโกนดังก้องอัศจรรย์

ศิษย์พี่แข็งแกร่งที่สุด !”


ศิษย์พี่ต้องชนะ !”



ฮ่า ฮ่า ฮ่า !นี่คือความแข็งแกร่งของว่าที่ราชันที่แท้จริง !



ณ ยามนี้ ในที่สุด โยวซูจินหยิบดาบของเขาออกมา มันเป็นเหมือนดาบซามูไร ยาวสี่ฟุตและบาง ด้ามจับยาวหนึ่งฟุต นี่คือสิ่งประดิษฐ์วิญญาณนักบุญขั้นกลาง ในแง่ของศักยภาพมันด้อยกว่าหอกฟินิกซ์โบราณ แต่หอกฟินิกซ์โบราณมันยังไม่เติบโตเต็มที่ ดังนั้นความแข็งแกร่งของดาบในมือโยวซูจินจึงแข็งแกร่งกว่า !


หวีดดดด!

ดาบถูกแทงออกไปในอากาศพร้อมเสียงหวีดแหลม !



พื้นที่ว่างเปล่าโดยรอบตัวโยวซูจินดูบิดเบี้ยวในพริบตา ก่อนที่ดาบและโยวซูจิน จะผสานรวมเข้ากับความว่างเปล่า !

 


แควก แควก !



 
ในเวลาเดียวกัน บริเวณรอบๆปลายดาบ ช่องว่างถูกฉีกกระชากขาดเป็นแนวยาวตามการแทงไปข้างหน้า !



เมื่อหลินหมิงมองเห็นดาบฉีกกระชากความว่างเปล่ารอบๆขาดกระจุย รูม่านตาของเขาหดเล็กลงในทันที ลักษณะเช่นนี้มันทำให้เขานึกถึงคำกล่าวจาก ผู้อาวุโสทรงพลังท่านหนึ่ง ผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของกฎมิติ เขาผู้นั้นกล่าวว่า อาวุธที่แหลมคมที่สุด มันไม่ได้เกิดจากปรับแต่งและหล่อหลอมขึ้นจากปรมาจารย์ด้านอาวุธท่านใด แต่มันคือมิติว่างเปล่า เมื่อท้องฟ้าแตกสลาย มิติพังทลาย พลังของมันสามารถฉีกได้แม้แต่ความเป็นจริง !



ถึงแม้ว่าโยวซูจินจะไม่สามารถฉีกมิติขนาดใหญ่ได้ในระดับบ่มเพาะเทพสมุทรขั้นปลายสุด แต่เขายังสามารถฉีกกระชากความว่างเปล่ารอบตัวดาบได้!



แค่การโจมตีธรรมดา มันยังทรงพลังมากขนาดนี้.!



แล้วหลินหมิงจะป้องกันการดจมตีนี้ได้อย่างไร ?



ดวงตาของเหล่าผู้เข้าร่วมและผู้ชมเปิดกว้าง ชนชั้นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ผู้เข้าร่วมในการต้อสู้ในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะจากดินแดนของตน อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับโยวซูจิน พวกเขาคงต้องหวั่นใจเป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาพบว่าพวกเขาไม่อาจป้องกันการโจมตีนี้ได้ ! นอกจากนั้นนี่ยังเป็นเพียงการโจมตีธรรมดาทั่วๆไปของโยวซูจินอีกด้วย แล้วหากการโจมตีที่รุนแรงขึ้นล่ะ พวกเขาจะเป็นเช่นไร !



ช่างเป็นการโจมตีที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้ หลินหมิงกำลังตกอยู่ในอันตราย !”

 

ขวับ ! ซึบ ซึบ ซึบ!



เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีจากดาบของโยวซูจิน หลินหลิงเคลื่อนตัวหลบออกด้านข้างพร้อมกับกวาดหอกฟินิกซ์โจมตีกลับในทันที หอกฟินิกซ์เปล่งกลิ่นอายลำแสงสีฟ้าออกมาในพริบตาก่อนที่จะปะทะกับดาบแสงของโยวซูจิน. ลำแสงหอกสีฟ้ามันดูคล้ายมังกรน้ำกำลังเผชิญหน้ากับดาบแสงขนาดมโหฬาร

 

ปัง ! เคร้ง เคร้ง   !

 

เสียงหอกกับดาบปะทะกันอย่างดุเดือดดังก้องไปทั่วลานผนึกเทวะชั้นที่31 แรงกระแทกจากการปะทะกระจายเป็นระลอกคลื่นกระแทกความว่างเปล่าโดยรอบจนบิดเบี้ยวไปทั่ว ดาบแสงค่อยๆสลายไป ในขณะที่หอกแสงสีฟ้าแตกออกเป็นเสี่ยงๆในอัตราที่เร็วกว่า !

 
ฮึ! โยวซูจินยิ้มเยาะ มิติเป็นเรื่องที่รู้กันในฐานะอาวุธที่แหลมคมที่สุด ชื่อเสียงของมันสามารถตัดผ่านได้เกือบทุกสิ่ง มันจึงเป็นเหตุผลที่ยอมรับโดยทั่วไป



อย่างไรก็ตามในขณะที่ดาบแสงกำลังจะกลืนกินหอกแสงสีฟ้า ฉากลึกลับกับปรากฏขึ้น หอกแสงสีฟ้าทีถูกทำลาย กลับปรากฏออกมาใหม่ ถูกทำลาย ปรากฏออกมาใหม่ ถูกทำลาย ปรากฏออกมาใหม่ เป็นเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา !




การเจริญเติบโตไม่สิ้นสุด?”



คิ้วของโยวซูจินขมวดขึ้น หอกแสงสีฟ้านี้มันปรากฎออกมาไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ.



กฎ ชีวิต กฎย่อยเติบโตไม่สิ้นสุด กฎ ที่พิเศษอย่างหนึ่ง เมื่อเข้าใจกฎนี้จนถึงขั้นสูงสุด มันมีโอกาสพัฒนาเป็น กฎอมตะ !



หลังจากหลินหมิงดูดซับกระดูกมังกรแท้จริงโบราณ แก่นแท้และ กฎ ชีวิตของเขาพัฒนาและเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด.



ปัง!



เมื่อการปะทะครั้งสุดท้ายมาถึง ระลอกคลื่นจากแรงกระแทกหายไป หอกแสงสีฟ้ากับดาบแสงสีดำกับกลายเป็นดังฝนสีฟ้าและดำสลับกันตกลงสู่พื้น !


ในการปะทะกันครั้งแรก ทั้ง2เสมอกัน !



เจ้าป้องกันได้?”



โอ้? ข้าคิดว่าหลินหมิงจะต้องสิ้นท่าซะอีก ?.”

แข็งแกร่ง!”



ในการต่อสู้ที่เพิ่งหยุดไป ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงการต่อสู้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น อีกทั้งมันไม่ได้มีทักษะพิเศษใดใดเลย แต่หลายคนยังมองเห็น ความลึกลับจาก กฎ มากมายนับไม่ถ้วน จากการปะทะกันช่วงสั้นๆของทั้ง2คน !



ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่เลว! เจ้าสามารถทำให้ข้าเอาจริงได้บ้างเล็กน้อย แค่เล็กน้อยเท่านั้น


ฟุบ !



โยวซูจิน หัวเราะก่อนทีร่างกายของเข้าจะเคลื่อนที่หายไปในพริบตา ความเร็วของเขาราวกับความเร็วแสง มันดูคล้ายลำแสงพุ่งตรงเข้าหาหลินหมิงแทบจะในพริบตา !



                                                                                  BY NSN

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Facebook