วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ศิลาลึกลับกับวีรบุรุษ 1245

 

Chapter 1245 – ร่างกายผันแปร

มากกว่า20ตัวตนระดับสูงในโลกนักสู้ที่แท้จริงต่างรวมตัวกันที่นี่ ผ่านกระจกคริสตัลขนาดมโหฬารจำนวน30อัน พวกเขาทั้งหมดสามารถมองเห็นการต่อสู้ของเหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะจากลานต่อสู้ทั้ง30แห่ง.

ลานประลองทั้ง30แห่งล้วนใช้วิธีการจัดการประลองแตกต่างกัน และ 1ใน30ลานประลองได้เสร็จสิ้นการประลองแล้ว มันมีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น300คนที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

โจวชอน ยู ทัง  ดา หลง และ โย ดง! คนทั้ง4นี้นับเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากอย่างแท้จริง การประลองในการต่อสู้ครั้งแรกของอาณาจักรราชันสวรรค์ช่างเต็มไปด้วยเหล่าผู้มีพรสวรรค์

ตัวตนระดับสูงจากพิภพเอกไพศาลตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะมีเสียงกล่าว พวกเขาเหล่านี้ประสบความสำเร็จในรอบก่อนรองชนะเลิศจากพิภพของพวกเขา พวกเขายังมีแนวโน้มจะติด20อันดับแรกในรอบรองชนะเลิศ !


ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกเขายังเทียบไม่ได้กับเหล่าบุตรหลานราชั้นสวรรค์ ราชาพิภพเอกไพศาลหัวเราะ โยว่ซูจินนั้นเป็นศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธิพิภพเอกไพศาลของเขา.

พวกเขาค่อนข้างแข็งแกร่งพอสมควร โดยเฉพาะหลายคนมีความแข็งแกร่งพอพอกับเหล่าบุตรหลานของราชันสวรรค์ หรือไม่ก็อ่อนแอกว่าเล็กน้อย อีกทั้งดูเหมือนความแข็งแกร่งของพวกเขาที่อ่อนด้อยกว่า มันน่าจะมาจาก ทรัพยากร มรดกตกทอดและพรสวรรค์ราชาพิภพเอกไพศาลกล่าว นี่นับเป็นการประเมินที่สูงแล้ว บรรดาเหล่าบุตรหลานราชันสวรรค์ ทรัพยากรที่พวกเขาได้รับนั้นมากมายแทบจะมหาศาลเลยด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น โอสถโลกไพศาล พวกเขาจะใช้โอสถตัวนี้ในระดับผันแปรศักดิ์สิทธิซึ่งมันอาจะทำให้ตัวตนระดับผู้ปกครองศักดิ์สิทธิต้องปวดใจ แต่สำหรับพวกขามันเป็นเพียงโอสถทั่วไป  .

ในคราวนี้ ข้าจะขออนุญาตท่านราชันสวรรค์เอกอนันต์ เพิ่มจำนวนคนที่จะได้เข้าไปในพระราชวังสวรรค์พิภพเอกอนันต์ ไม่ว่าจะเป็น โจวชอน หรือโย ดง พวกเขาควรจะได้รับโอกาสนี้.”

ขณะราชันพิภพเอกไพศาลกล่าวประโยคนี้ออกมา บรรดาตัวตนระดับสูงจากพิภพเออนันต์ เผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าทันที พวกเขาย่อมยินดีเป็นอย่างยิ่ง การเพิ่มคนเข้าไปในพระราชวังสวรรค์ของพิภพเอกอนันต์ มันย่อมหมายถึงทรัพยากรจำนวนมากมายมหาศาล ถึงแม้ว่าพิภพเอกอนันต์จะมีทรัพยากรจำนวนมหาศาลสะสมไว้ แต่มันก็ไม่สามารถสิ้นเปลืองไปโดยง่ายเช่นกัน.

ต้องทราบก่อนว่าทรัพยากรจากพระราชวังสวรรค์พิภพเอกอนันต์ เป็นสิ่งที่พิภพราชันใดใดไม่สามารถเทียบได้ นี่นับเป็นประโยชน์มหาศาลต่อการเติบโตของเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ ดังนั้นพวกเขาจึงหวังให้บุตร หลาน ศิษย์ของตนเข้าบ่มเพาะที่พระราชวังสวรรค์พิภพเอกอนันต์ ถึงแม้มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม


อืม ใช่.! แล้วตอนนี้ โย่วซูจินจากดินแดนศักดิ์สิทธิปีศาจทมิฬของท่าน เป็นเช่นไรบ้าง?”

ราชันเอกไพศาลกล่าวกับเทียนหมิงจือ.

การแข่งขันยังไม่จบ มันมีม้ามืดเพิ่มขึ้นมาหลายคน ความแข็งแกร่งและศักยภาพของพวกเขาค่อนข้างดี

โอ้..?”

ราชันเอกไพศาลอุทานเล็กน้อย เขานั้นค่อนข้างสนใจในคำกล่าวของเทียนหมิงจือ พรสวรรค์ของเทียนหมิงจือนั้นสูงมาก เขานั้นแข็งแกร่งกว่าราชันเอกไพศาลเล็กน้อย  บุคคลระดับนี้ยังกล่าว ค่อนข้างดีแสดงว่าผู้เข้าร่วมกลุ่มนี้ย่อมเป็นผู้โดดเด่นอย่างแน่นอน

ไม่เพียงแต่ราชันพิภพเอกไพศาลเหล่าราชันพิภพอื่นๆต่างจับจ้องไปที่ลานประลองดวงดาวคำสาปจันทราเช่นกัน การประลองที่ดวงดาวคำสาปจันทรานับได้ว่าค่อนข้างช้าหากเทียบกับลานประลองอื่นๆ แต่มันก็ใกล้จะถึงจุดสุดท้ายแล้วเช่นกัน


โอ้! มันมีผู้เข้าร่วมมากถึง10คนที่สามารถขึ้นไปชั้นที่30ได้ บางที่อาจจะมีใครบางคนสามารถขึ้นไปถึงชั้นที่32ได้ แต่ชั้น32มันก็อาจจะยากเกินไป?.”

ราชันเอกไพศาลกล่าวด้วยความพึงพอใจ ในฐานะคนจากดอนแดนราชันสวรรค์อันยิ่งใหญ่ เขารู้ดีว่าการปีนแท่นผนึกเทวะนั้นมันยากขนาดไหน เดิมที่เขาประเมินว่าน่าจะมีผู้เข้าร่วมซัก4-5คนเท่านั้นที่สามารถขึ้นมาถึงชั้นที่30ได้ก้นับว่าดีมากแล้ว.

เทียนหมิงจือ ผู้ใดเป็นม้ามืดรึ ?”

มีอยู่2คน ผู้เข้าร่วมชุดดำถือหอกชื่อหลินหมิงกับชายผิวขาวซีดถือดาบชื่อเขี้ยวมังกร.”

ปัง! เตร้ง ! เคร้ง !

ในขณะที่เทียนหมิงจือกำลังกล่าว หลินหมิงกับเขี้ยวมังกรกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาคือเหล่าผู้เข้าร่วมใน300อันดับแรกจากโลกนักสู้ที่แท้จริง หรืออาจจะเป็นบางคนจากอันดับล่างที่ปิดงำฝัมือที่แท้จริงไว้ในรอบแรก .

ก่อนหน้านี้ในชั้นที่29มันมีเพียงผู้เข้าร่วมเพียง15คน และมีเพียง10คนเท่านั้นที่สามารถปีนขึ้นไปยังชั้นที่30ได้ 1ในสามของพวกเขาถูกกำจัดออก

การต่อสู้ในรอบนี้มันรุนแรงราวกับเปลวไฟโหมกระหน่ำ !

บนชั้นที่30 แรงกดดันจากราชันสวรรค์มันทั้งรุนแรงและหนักหน่วงยิ่งนัก หากเป็นผู้เข้าร่วมธรรมดา พวกเขาไม่อาจแม้แต่จะกระดิกตัว นับประสาอะไรกับการต่อสู้ เนื่องจากแรงกดดันดังกล่าวพวกเขาไม่สามารถใช้ความสามารถและความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาได้เกิน10 เปอร์เซ็นต์ !

แต่มันดูเหมือนแรงกดดันดังกล่าวจะไม่สามารถใช้ได้กับอัจฉริยะทั้ง10คนบนชั้นที่30 ! เมื่อความแข็งแกร่งและศักยภาพของพวกเขาถูกปลดปล่อยออกมา มันช่างส่องประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าและรุ่นแรงจนสะเทือนไปถึงสวรรค์ !

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ภายในพิภพทั้ง3000ใบจากโลกนักสู้ที่แท้จริง มันมีผู้คนกว่า4พันล้านชีวิต มันย่อมมีอัจฉริยมากมายเหลือคนานับเช่นกัน อย่างไรก็ตาม โยว่ซูจิน นั้นมีลักษณะเฉพาะตัวอย่างแท้จริง เขานั้นมีความสามารถแทบจะไร้ขีดจำกัด ข้าเชื่อว่าเขานั้นสามารถปีนขึ้นไปชั้น32ได้แน่ ในบรรดาผู้เขาร่วมคนอื่นๆ น่าจะมีซัก3-4คนขึ้นไปชั้นที่31ได้ แค่นี้มันก็ท้าทายสวรรค์มากพอแล้ว!?”

ราชันพิภพกล่าวชมออกมา ในขณะที่เทียนหมิงจือเพียงยิ้มและไม่กล่าวใดใด


ณ เวลานี้ บนลานผนึกเทวะการต่อสู้อันดุเดือดได้ยุติลงแล้ว ยามนี้มันปรากฏคนห้าคน มันคือ....หลินหมิง เขี้ยวมังกร โยว่ซูจิน ยอดนักดาบประกายโลหิต และนักดาบม่วง


ทั้งห้าคนคือผู้ชนะ !

ถึงแม้พวกเขาทั้ง5จะเป็นผู้ชนะ
แต่มันยังเหลืออีก3ชั้นสูงสุด !

หากยังมีการคัดออกในอัตราเดิมก่อนหน้านี้ มันคงไม่มีใครสามารถปีนขึ้นไปชั้น33ได้ บางทีแม้แต่ชั้น32ยังยาก !.

คำกล่าวของเสี่ยวเต๋าจือนับว่าเป็นความจริง มันไม่มีใครสามารถปีนขึ้นไปถึงชั้น33ได้
ใช่ ไม่มีใครปีนขึ้นไปชั้นสูงสุดได้ ไม่เว้นแม้แต่โย่วซจิน.”

ณ เวลานี้ เหล่าผู้เฝ้ามองการต่อสู้ กำลังส่งเสียงผ่านลมปราณเสียงวิพากษ์วิจารณาถึงการต่อสู้ในอรอบก่อนรองชนะเลิศอย่างออกรส เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดนี้ ผู้คนหลายพันล้านคนบนอัศจรรย์ ต่างเงียบและใจจดใจจ่อ รอดูการต่อสู้รอบสุดท้ายจากชั้นที่31อย่างอดทน ครั้งต่อไปการต่อสู้ที่เกิดขึ้น ย่อมเป็นอะไรที่สุดยอดอย่างแน่นอน !

วิ้วว...วิ้วว..

ในขณะเดียวกัน บนแท่นผนึกเทวะ โย่วซูจินลืมตาขึ้นมาในทันที พร้อมกับสายลมดวงดาวพัดผ่านแท่นผนึกเทวะ


หากผู้เข้าร่วมบนชั้นที่31เป็นเลขคี่ ผู้เข้าร่วมที่มีผลงานดีที่สุดในช่วงเวลาที่ผ่านมา เช่น โย่วซูจิน อาจจะไม่ต้องต่อสู้และปีนขึ้น32ได้เลย ส่วนที่เหลือจำเป็นต้องต่อสู้กัน ผู้ชนะจึงสามารถปีนขึ้น32ได้!”
ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น ตกเลขคี่โย่วซูจินไม่จำเป็นต้องต่อสู้ก็ได้?”

นี่มันถือว่าได้เปรียบเกินไปกระมัง กว่าจะปีนขึ้นมาถึงชั้นนี้ได้ มันต้องใช้เรี่ยวแรงและกำลังมากขนาดไหน ต่อให้ใช้กำลังไปเพียงเล็กน้อยตอนเริ่มต้น ณ ตอนนี้คงไม่มีใครเก็บงำความแข็งแกร่งไว้อีกกระมัง มันคงต้องใช้ความแข็งแกร่งออกไปอย่างมากเป้นแน่แท้ และตอนนี้ผู้ที่ไม่ได้ต่อสู้ย่อมได้รับประโยชน์มากกว่าผู้อื่นอย่างชัดเจน!”

ใช่ พวกเขาทั้ง5นับเป็นสุดยอดอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ พวกเขามีแนวโน้มที่จะปีนขึ้นไปชั้น31ทั้งหมด เมื่อถึงเวลานั้น โย่วซูจินย่อมหลีกเลี่ยงการต่อสู้และปีนต่อไปชั้น32ได้ !”

เหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์โบราณ ดินแดนศักดิ์สิทธิแห่งใหม่อันเป็นที่มาของยอดนักดาบประกายโลหิต และเหล่าศิษย์นิกายดาบม่วง พวกเขาต่างคิดว่าสิ่งนี้มันช่างไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง.

แตกต่างกับเหล่าศิษย์จากพิภพรุ่งอรุณปีศาจ พวกเขาตางไชโยโห่ร้อง !
ฮ่า ฮ่า ฮ่า เยี่ยมเลย ศิษย์พี่ซูจิน สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ สิ่งนี้ศิษย์พี่สมควรได้รับ ผลงานที่ผ่านมาของเขานั้นดีที่สุด .”

ศิษย์พี่ซูจินอาจจะปีนขึ้นไปถึงชั้น31และชั้น32ด้วยก็เป็นได้!”

หึ! ถึงแม้ศิษย์พี่ซูจินจะไม่หลบเลี่ยง เขายังสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย!”

บนแท่นผนึกเทวะ โย่วซูจินยังคงสงบนิ่งก่อนที่เขากำหมัดแน่นก่อนจะกล่าว ดี กฎเหล่านี้เป็นประโยชน์สำหรับข้า

ถึงแม้ว่าโย่วซูจิน จะมีความมั่นใจและภาคภูมิในตัวเองมาก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับแท่นผนึกเทวะ เขาเองยังต้องใช้ความพยายามมากเช่นกัน ดังนั้นหากไม่ต้องต่อสู้และเก็บความแข็งแกร่งไว้ได้มันย่อมได้รับประโยชน์มหาศาล.

ถ้าข้าหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ ผลลัพธ์ที่ข้าจะได้รับย่อมดียิ่งขึ้น โอกาสที่ข้าจะดีงดูดความสนใจจากราชันสวรรค์รุ่งอรุณปีศาจย่อมมีมากขึ้นเช่นกัน !”

โย่วซูจินเต็มไปด้วยความมั่นใจ !

เริ่มปีนได้!” เสี่ยวเต๋าจือกล่าวก่อนที่จะหลับตานั่งสมาธิต่อ


ผู้เข้าร่วมทั้ง5คน เอาชนะ ผู้เข้าร่วมนับ100คนเริ่มปีนขึ้นในทันที

ในขณะที่หลินหมิงแตะผิวกำแพงหิน แรงกดดันอันหนักหน่วงยิ่งกว่าที่ผ่านมากดทับเขาในทันที .

อืม ...ช่างเป็นแรงกดดันอันน่าเกรงขามนักนอกจากนี้มันไม่ใช่กดดันเฉพาะร่างกาย แต่มันกดทับกระทั่งแก่นแท้และจิตวิญญาณอีกด้วย

หลินหมิงรู้สึกได้ในทันทีเมื่อเริ่มปีนขึ้นแท่นผนึกเทวะชั้น31 แรงกดดันอันบ้าคลั่งโถมทับทั่วร่างในทันที อีกทั้งมันยังโจมตีไปที่จิตวิญญาณและแก่นแท้ของเขาอีกด้วย!


แรงกดดันวิญญาณระดับนี้สำหรับข้ายังไม่นับว่าเป็นอันใดได้ แต่สำหรับผู้อื่นนับว่าเป็นการทดสอบที่ดี .”

หลังจากหลินหมิงบ่มเพาะจิตวิญญาณในดินแดนศักดิ์สิทธิมายา พลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมากกว่าผู้อื่นในระดับเดียวกันไปมาก ดังนั้นแรงกดดันวิญญาณบนแท่นผนึกเทวะชั้น31นี้ เขาจึงไม่ได้รับแรงกดดันอะไรมากนัก.

ด้วยการก้าวขึ้นหน้า หลินหมิงเริ่มปีนขึ้นกำแพงที่สูงตระหง่านเบื้องหน้าอย่างมั่นคง .

ยิ่งเข้าใกล้ชั้น33มากเท่าไหร่ หลินหมิงยิ่งสัมผัส กฎ บนแท่นผนึกเทวะได้ชัดเจนมากขึ้น

สำหรับผู้เข้าร่วมคนอื่น มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะปีนขึ้นไปอย่างสงบเช่นหลินหมิง .

ขณะที่พวกเขาปีนขึ้นไป มันไม่ใช่เพียงแค่แรงกดดันที่โถมทับร่างกาย แก่นแท้และจิตวิญญาณเท่านั้น มันยังมีภาพมายาโจมตีพวกเขาอีกด้วย !

ภาพมายาเหล่านี้มันปรากฏออกมาเป็นลักษณะต่างๆมากมาย เช่น การต่อสู้ สงครามขนาดใหญ่ การเข่นฆ่า รวมทั้งกระตุ้นปีศาจในจิตใจด้วย !

ยามนี้เขี้ยวมังกรกำลังเผชิญกับภาพมายาสงครามปีศาจ ทุกก้าวย่างของเขา มันเหมือนกับเขากำลังปีนเข้าหาสนามรบปีศาจโบราณ บนเส้นทางที่ก้าวเดินมันเต็มไปด้วยเลือด และ ซากศพ ข้างหูของเขาเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเกลียดชังและคำสาปแช่งต่างๆนานา !

 ตึง ! ตึง ! ตึง

เสียงกลองศึกดังกังวานเต็มสองหู คลื่นดาบแผ่ซ่านทั่วร่างกายของเขา มันรู้สึกราวกับร่างกายถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆตลอดเวลา !

แท่นผนึกเทวะ สมกับนามของมันอย่างแท้จริง น่าสนใจยิ่งนัก!!”


เขี้ยวมังกรหลับตาก่อนจะเปิดขึ้นอีกครั้งในทันที ในครั้งนี้นัยน์ตาดำของเขา ดูเรียวและแคบลงราวกับเข็ม รอบๆรูม่านตามันเต็มไปด้วยอักขระทักทอเป็นลวดลายแปลกๆ.

นัยน์ตาของเขาดูลึกลับและไม่อาจหยั่งถึง ทำให้ไม่อาจมีผู้ใดจ้องมองเข้าไปที่นัยน์ตาเขาได้ หากมีผู้ใดพยามเพ่งมองเข้าไป พวกเขาจะรู้สึกราวกับวิญญาณถูกดูดเข้าไปยังหลุมไร้ก้นอันมืดมิด !
หลังจากเปิดใช้ทักษะนัยน์ตาดังกล่าว ภาพมายาตรงหน้าเขี้ยวมังกรถูกกวาดล้างในพริบตา มันไม่อาจส่งผลกระทบกับเขี้ยวมังกรได้อีกต่อไป


เขี้ยวมังกรเริ่มยืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง อีกทั้งในขณะเปิดใช้ทักษะนัยน์ตาดังกล่าว มันยังอยู่ในช่วงเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากแท่นผนึกเทวะ มันจึงไม่มีใครสามารถมองเห็นทักษะนัยน์ตาดังกล่าวได้.



ณ เวลาเดียวกัน โยวซูจิน และ ยอดนักดาบประกายโลหิต พวกเขาพบว่ามันยากกว่าที่คาดเดาไว้มากนัก !

ชั้น31 ช่างน่ากลัวจริงๆ!”



ยอดนักดาบประกายโลหิตขมวดคิ้วแน่น


อาณาเขตสังหาร เปิด!”


ฉัวะ ! ฉัวะ !

ทันใดนั้น แสงศักดิ์สิทธิสีแดงพุ่งออกมาจากหว่างคิ้วในพริบตา กลิ่นอายการฆ่าถูกปลดปล่อยออกมาจนสุดจากร่างกายเขาปะทะกับคลื่นมายารอบตัวเขาในทันที.

ตึก ตึก ตึก !


ยอดนักดาบประกายโลหิตยังคงปีนขึ้นไปต่อ ก้าวย่างของเขาดูไม่มั่นคงนัก หน้าผากของเขาเปียกโชคไปด้วยเหงื่อ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างลำบาก มันเห็นได้ชัดว่าเขานั้นไม่ได้ผ่อนคลายเช่นเดียวกับเขี้ยวมังกร.

สำหรับโย่วซูจิน เขานั้นอยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึงกับยอดนักดาบประกายโลหิต แต่ด้วยความแข็งแกร่งและความลึกซึ้งในการฝึกฝนที่ผ่านมาของเขา เขายังคงต้านทานภาพมายาเหล่านี้ได้ดีกว่าเล็กน้อย สำหรับโย่วซูจิน การปีนขึ้นชั้นที่31 มันถือได้ว่าเป็นการทดสอบที่สำคัญอย่างหนึ่ง !

ในบรรดาทั้ง5คน นักดาบม่วงเป็นผู้ที่ช้าที่สุด ในยามนี้ใบหน้าของเขาซีด นิ้วของเขาสั่น ทุกย่างก้าวของเขาช้ากว่าก่อนหน้านี้มาก มันราวกับเขาติดอยู่ในหนองน้ำ ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนไหวช้าลงมากขึ้น .

ทั้งหมดนี้มีนเป็นเพียงภาพมายา มันเป็นภาพมายา ภาพมายา มันไม่สามารถส่งผลกระทบต่อข้า พวกเขาไม่สามารถส่งผลกระทบต่อข้าได้ !”

นักดาบม่วงพร่ำบนในใจ เขาต้องการขจัดภาพมายาทั้งหมดออกจากจินตนาการของเขา อย่างไรก้ตามสภาพร่างกายของเขาในตอนนี้มันค่อนข้างย่ำแย่ อีกทั้งเขายังใช้ความแข็งแกร่งของเขาไปจนเกือบหมดสิ้นอีกด้วย  อันที่จริงเมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ถาโถมครอบคลุมทั่วร่างกาย แก่นแท้และจิตวิญญาณพร้อมกัน เขาพบว่ามันยากที่จะต้านทานได้.

นี่คือพลังของภาพมายา ถึงแม้ว่าเขาจะตระหนักได้อย่างชัดเจนว่ามันคือภาพมายา แต่เขายังได้รับผลกระทบจากมันเช่นกัน.

เมื่อนักดาบม่วงแหงนมองขึ้นไปข้างบน เขาพบว่าตัวเองอยู่ล่างสุด

ข้า ...ข้าอยู่ล่างสุด ! นี่ข้าอ่อนแอมากที่สุดรึ !?”

ภาพมายากับความเป็นตริงสลับสับเปลี่ยนไปมาอย่างต่อเนื่อง นักดาบม่วงพบว่าความแข็งแกร่งของตัวเองค่อยๆลดหายไปจากร่างกายของเขา ในระหว่างภาพมายากับความเป้นจริงสลับไปมา เขายังคงมองเห็น หลินหมิง เขี้ยวมังกรและคนอื่นๆ ก้าวไปข้างหน้าไกลออกไปเรื่อยๆ

ในยามนี้เขาพลันรู้สึกตัว มันเป็นความรู้สึกยามได้รับบาดเจ็บสาหัสและพลัดตกลงไปยังหุบเหวลึก ถึงแม้เขาจะสามารถมองเห็นยอดเขาจากหุบเหวลึกได้ แต่มันยังคงเป้นความสิ้นหวังอย่างแท้จริงหากต้องปีนขึ้นไป



                                                                                                                      by nsn

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Facebook