Chapter 1242 – จำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว
การต่อสู้ระหว่างหลินหมิงกับซือหยูอวิ้น
นับเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกทั้งยังเป็นการต่อสู้ของนักสู้ในระดับสูงและน่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้
หากนับจากจำนวนผู้ชม
บนแท่นผนึกเทวะชั้น23 โยวซูจินและยอดนักดาบประกายโลหิต
หลังจากจัดการกับคู่ต่อสู้ได้แล้ว พวกเขาไม่ได้รีบร้อนขึ้นไปยังชั้นที่24แต่อย่างใด
กับกันพวกเขาต่างเฝ้ามองการต่อสู้ของหลินหมิงอยู่เช่นกัน.
“น่าสนใจ”
โยวซูจินยิ้ม ก่อนที่จะหันหลังและเริ่มปีนขึ้นแท่นผนึกเทวะชั้นที่24
ยอดนักดาบประกายโลหิตเองก็เริ่มปีนขึ้นชั้นที่24เช่นกัน
ในสายตาของพวกเขา หลิมหมิงเพียงน่าสนใจ แต่มันยังคงไม่มีอะไรให้พวกเขาวิตกกังวล
แต่มันไม่ใช่กับผู้เข้าร่วมคนอื่น
แรงกดดันจากหลินหมิงที่เผยออกมามันมากเกินไป มันไม่อาจทำให้พวกเขาสงบได้อีกต่อไป
“ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!”
“สัตว์ประหลาดอีกตนหนึ่งชัดๆ”
“พวกเราจะเอาชนะเค้าได้รึ!”
“มันดูเหมือนเขาจะไม่มีวันพ่ายแพ้ง่ายๆแน่!”
“เดิมที่แค่
โยวซูจิน ยอดนักดาบประกายโลหิตและเขี้ยวมังกร มันก็ทำให้พวกเราอึดอัดแทบตายแล้ว
นี่ยังมีหลินหมิงโผล่ออกมาอีก ต่อจากนี้ไปหากพวกเราไม่ระวัง คงได้ฉิบหายกันหมดแน่ !”
เหล่าผู้เข้าร่วมกว่า99%
เริ่มขาดความมั่นใจ ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าพวกเขาไม่มีโอกาสชนะหลินหมิงได้เลย! อีกทั้งส่วนใหญ่ยังไม่มีความกล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับหลินหมิง!
“ความแข็งแกร่งขนาดนี้
คนผู้นี้ ไม่ใช่เข้าร่วมจากโลกนักสู้ที่แท้จริงของเจ้าหรอกรึ! มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่แดนศักดิ์สิทธิระดับ3จากโลกนักสู้ที่แท้จริงจะบ่มเพาะสัตว์ประหลาดเช่นนี้ออกมาได้?.”
ผู้เข้าร่วมสะพายดาบ ผมเขียวกล่าวถามชายหนุ่มด้านข้างออกมาด้วยความแปลกใจ
“เขาไม่ได้..”หวูกุยอวิ้นไม่ได้กล่าวถึงหลินหมิงมากนัก
หลินหมิงนับเป็นความอัปยศของเขาเช่นกัน
“อืม..ถ้ามีบุคคลเช่นนี้อยู่ในโลกนักสู้แท้จริงจริง
ข้าคงรู้จักเขาไปนานแล้ว
เจ้าหวูกุยอวิ้นไม่ใช่อันดับ1จากโลกนักสู้ที่แท้จริงหรอกรึ
ถึงแม้ว่าเขี้ยวมังกรคนนั้นจะไม่สามารถยั่วยุเขาได้ง่ายๆ แต่หลินหมิงผู้นี้คงจะโดดเด่นกว่าเจ้าในไม่ช้านี้แน่นอน
เจ้ามีแผนจะทำยังไงต่อไปรึ?”
ในสายตาของผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียว
ซือหยูอวิ้นนั้นมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิระดับที่3เท่านั้น
นางย่อมอ่อนแอกว่าหวูกุยอวิ้นเช่นกัน หากหวูกุยอวิ้นต้องต่อสู้กับหลินหมิง
มันคงไม่จบลงง่ายเช่นเดียวกับซือหยูอวิ้นกระมัง?
แต่สิ่งที่ผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวไม่ทราบก็คือ
หวูกุยอวิ้นได้พ่ายแพ้ให้กับหลินหมิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระนั้นจะโทษผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมสีเขียวว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้
เหตุการณ์นั้นมันเกิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิมายา
ผู้อื่นที่ไม่ใช่บุคคลที่ต่อสู้กันในดินแดนศักดิ์สิทธิมายา
ย่อมไม่สามารถมองเห็นการต่อสู้ดังกล่าวได้.
“ใครสนล่ะ? หากมีใครขวางทางข้า
ข้าจะทำลายมันผู้นั้น ใครท้าทายข้าข้าย่อมรับคำท้าเช่นกัน
อีกอย่างข้าดูเหมือนคนโง่ให้เจ้าหรอกใช้รึ?”.
ผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียว
รู้สึกว่าคำตอบของหวูกุยอวิ้นดูไม่เหมือนหวูกุยอวิ้นคนเก่า
ปกติหวูกุยอวิ้นคนนั้นเค้าจะต้องหยิ่งยโส โอ้อวดตัวเองซิถึงจะถูกต้อง “นี่..ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะหลินหมิงได้ใช่มั้ย?”
ยิ่งคิดผู้เข้าร่วมสะพายดายผมเขียว
ยิ่งรู้สึกว่ามันแปลกไปเล็กน้อย
เป็นเรื่องธรรดาที่หวูกุยอวิ้นจะหลีกเลี่ยงเขี้ยวมังกร
แต่หลินหลิงเพียงแค่เอาชนะนักสู้จากดินแดนระดับ3 ดังนั้นความสามารถของทั้งสองมันจึงน่าจะเท่าเทียมกันถึงจะถูก
แต่ตอนนี้ฟังจากคำกล่าวของหวูกุยอวิ้น
มันดูเหมือนเขาจะเคยพ่ายแพ้ให้กับหลินหมิงมาก่อน?!
“เจ้าไม่ต้องมาห่วงข้าหรอก ห่วงตัวเองเถอะ
ทำในสิ่งที่เจ้าต้องการ และนั้นมันคงไม่ใช่ปัญหาของข้าแน่นอน!?.”
หวูกุยอวิ้นไม่กล่าวใดใดออกมาอีก
เขาก้าวออกไปและเริ่มปีนต่อไปยังชั้นที่24 เขาไม่ใช่คนโง่ หากกล่าวอะไรมากเกินไป
ผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวต้องรู้แน่นอนว่าเขาเคยพ่ายแพ้หลินหมิงมาก่อน
และนั้นจะทำให้ผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวเยาะเย้ยเขาอย่างแน่นอน
แต่ที่หวูกุยอวิ้นมั่นใจมากก็คือ ในการต่อสู้ครั้งนั้นกับหลินหมิง
หลินหมิงยังคงแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ
หวูกุยอวิ้นยังคงสงสัยว่า
หากหลินหมิงต้องต่อสู้กับเขี้ยวมังกร ยอดนักดาบประกายโลหิตหรือบุคคลอื่นๆที่มีความแข็งแกร่งพอพอกัน
หลินหมิงจะเอาชนะได้รึไม่ และ
ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลินหมิงนั้นมันมากมายขนาดไหนกัน?.
แต่ที่หวูกุยอวิ้นมั่นใจก็คือหากบุคคลใดก็ตามต้องเผชิญหน้ากับหลินหมิง
หากหลบเลี่ยงไม่เร็วพอคงพบเจอโชคร้ายมากกว่าโชคดีเป็นแน่
สำหรับผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวนั้น
หวูกุยอวิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะปะทะกับหลินหมิงในทันทีที่เจอกัน
แน่นอนว่าหวูกุยอวิ้นไม่ได้หวังว่าผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวจะเอาชนะหลินหมิงได้
กลับกันเขาหวังที่จะเห็นผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวต้องทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับตน
และนี่เป็นเพียงความคิดของบุคคลที่เคยประสบกับความอัปยศมาก่อนและในอนาคตยังรู้ตัวดีว่าไม่สามารถแก้แค้นได้
เขาจึงหวังให้บุคคลอื่นประสบกับความพ่ายแพ้เช่นเดียวกับตน
หวูกุยอวิ้นยังคงปีนขึ้นไปชั้น24เช่นเดิม
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา การก้าวต่อไปไปอย่างมั่นคง และ
หากไม่พบกับสัตว์ประหลาดอัจฉริยะ การผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศนับว่าไม่เป็นปัญหา
“สุดยอด!” หลังจากความเงียบปกคลุมไปทั่วแท่นผนึกเทวะไปช่วงหนึ่ง
เสียงอุทานเริ่มดังขึ้น “หลินหมิงเอาชนะซือหยูอวิ้นนักสู้อันดับ1จากโลกแสงสีชาดได้! อีกทั้งมันเป็นการชนะอย่างง่ายดายด้วยซ้ำ!นี่..ผู้เยาว์อัจฉริยะอันดับ1จากดินแดนศักดิ์สิทธิอันดับ3เชียวนะ!
อีกทั้งดูเหมือนหลินหมิงยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงอีกด้วย!
โอ้...สวรรค์!”
สองฝาแฝดสาวเปล่งเสียงผ่านลมปราณบรรยายการต่อสู้ของหลินหมิงกับซือเสวี่ยว์เอ่อร์ดังก้องไปทั่วทั้งแท่นผนึกเทวะ
แน่นอนว่าพวกเธอทั้งสองไม่อาจรู้ได้ว่าก่อนหน้านี้ หลินหมิงถูกทดสอบโดยจิตวิญญาณสิ่งประดิษฐ์แท่นผนึกเทวะมาก่อน
“อา..ศิษย์พี่หลิน เอาชนะผู้เยาว์อัจฉริยะอันดับ1จากโลกแสงสีชาดได้?
ยิ่งกว่านั้น..เขายังเอาชนะได้อย่างง่ายดายด้วย!?”
บนแท่นผนึกเทวะชั้นที่21 เหยี่ยนเยี่ยเอ่อร์
ตกตะลึงหลังจากได้ยินเสียงบรรยายของฝาแฝดสาว เนื่องจากเธออยู่คนละชั้นกับหลินหมิง เธอจึงไม่เห็นการต่อสู้ของหลินหมิง
โลกแสงสีชาด
นั่นไม่ใช่ที่ที่ตั้งเผ่าฟินิกซ์โบราณสาขาหลักหรอกรึ สำหรับเผ่าฟินิกซ์โบราณ
ดินแดนศักดิ์สิทธิแสงสีชาดในโลกแสงสีชาด
ไม่ต่างอันใดกับขุนเขาอันกว้างใหญ่ที่ไม่อาจข้ามผ่าน แต่หลินหมิงกับทำให้อัจฉริยะอันดับ1จากดินแดนศักดิ์สิทธิแสงสีชาดพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย!!!.
เหยี่ยนเยี่ยเอ่อร์
รู้สึกว่ามันค่อนข้างเหลือเชื่อ ในขณะเดียวกัน เหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์โบราณเริ่มตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ศิษย์พี่หลินหมิง.. สุดยอด...”
“ศิษย์พี่หลินหมิง ข้ารักท่าน!”
“ศิษย์พี่...แข็งแกร่งสุดยอด!”
“นี่..คือศิษย์พี่หลินหลิงจากเผ่าฟินิกซ์โบราณของพวกเราเอง
ฮ่า ..ฮ่า ฮ่า”
“สู้ได้ดี...ยอดเยี่ยมมาก!”
“เผ่าฟินิกซ์โบราณของพวกเรา
สามารถผงาดขึ้นได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว!”
เหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นยินดี
ดินแดนศักดิ์สิทธิแสงสีชาดกดดันพวกเขามานานมากแล้ว
และพวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้ใดใด แต่ในวันนี้หลินหมิงกับทำได้
อีกทั้งยังทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
หลินหมิงต่อสู้กับดินแดนศักดิ์สิทธิแสงสีชาดอย่างยุติธรรมและกวาดล้างอัจฉริยะอันดับ1ได้อย่างงดงาม
นี่จะไม่ทำให้พวกเขาดีใจ ตื่นเต้น สะใจ ได้อย่างไรกัน?
บนแท่นผนึกเทวะชั้นที่24
จำนวนนักสู้กลุ่มแรกในปัจจุบันมันลดลงไปมากกว่าครึ่ง ณ ตอนนี้เหลือแค่ 1600
คนเท่านั้น .
แม้หลังจากทั้งหมดบนชั้น24 นั่งลง ยืนรอ
เพื่อฟื้นฟูลมปราณ มันก็มีคนเพิ่มอีกแค่200-300คนนั้น
ตั้งแต่เริ่มการประลอง เหล่าผู้ชนะในช่วงแรกๆต่างก็ทยอยขึ้นมาถึงชั้นที่24ได้
แต่บรรดาเหล่าผู้ที่ตามหลังทั้งหลาย ถึงแม้ว่าจะเอาชนะคู่ต่อสู้และตามหลังมาตลอด
นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจำเป็นต้องขึ้นไปบนชั้น24เสมอไป
พวกเขาบางคนหลังจากพ่ายแพ้ให้กับผู้แข็งแกร่งกว่าทั้งหลายแล้ว
แม้ว่าจิตวิญญาณสิ่งประดิษฐ์แท่นผนึกเทวะจะรักษาพวกเขาจนหายสนิทแล้ว
แต่พลังลมปราณที่ใช้ไป มันยังคงไม่พอชดเชยกับที่ต้องใช้ไปก่อนหน้านี้ได้
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถพ่ายแพ้ได้ถึง4ครั้ง
แต่การพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวพวกเขาบางคนยังต้องใช้พลังลมปราณไปจนเกือบจะเหือดแห้งแล้ว
แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัด
บนชั้นที่24
หลินหมิงเองก็กำลังนั่งสมาธิเพื่อฟื้นฟูพลังลมปราณที่เสียไปเช่นกัน
อันที่จริงหลินหมิงไม่จำเป็นต้องฟื้นฟูใดใดก็ได้
นั้นเพราะการต่อสู้ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ใช้ลมปราณมากมายเท่าใดนัก
อีกทั้งกระดูกราชันมังกรในร่างกับประตูแห่งชีวิต
ยังช่วยเข้าฟื้นฟูตัวเองอยู่แทบจะตลอดเวลา
เพียงแต่ว่าหลินหมิงต้องการอยู่ในสภาพที่เต็ม100มากที่สุดเท่านั้นเอง ในเวลานี้พื้นที่รอบตัวหลินหมิงยาวออกไปนับ1000ฟุต
ไม่มีผู้ใดอยู่เลย มันช่างเงียบเชียบเหลือเกิน !
ที่ระยะห่างเกิน1000ฟุตรอบตัวหลินหมิง เหล่าผู้เข้าร่วม
ต่างมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาระแวงและหวาดกลัว.
นี่มีเพียงตัวตนเช่นเขี้ยวมังกรและยอดนักดาบประกายโลหิตที่จะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้
มันเป็นการยอมรับอย่างหนึ่ง !
จากความแข็งแกร่งที่หลินหมิงเปิดเผยออกมา
เขานั้นได้รับการยอมรับให้เป็น1ใน10อันดับแรกในรอบรองชนะเลิศแล้ว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!
ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ศิษย์พี่หลินเลย!”
“พวกขี้แพ้ทั้งหลาย พยายามซ่อนตัวจากศิษย์พี่หลิน...
นี่มันช่างน่ากลัวจริงจริง!”
“สุดยอด! เหตุการณ์เช่นนี้มันมีเพียงอัจฉริยะ10อันดับแรกเท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับเช่นนี้
แต่ศิษย์พี่หลินนั้น..ระดับบ่มเพาะของเขาต่ำกว่าผู้อื่นมากที่สุด! ”
การนั่งสมาธิอยู่ผู้เดียวบนแท่นผนึกเทวะ
และเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายยังเว้นระยะห่างออกไปนับ1000ฟุตเช่นนี้ มันนับเป็นความเงียบเหงาของปรมาจารย์แล้ว
เหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์โบราณต่างตะโกนออกมาเสียงดังสนั่น
ในเวาลาเดียวกันการต่อสู้ในชั้นที่24กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า!
ณ
ขณะนี้มันมีเพียงรุ่นเยาว์อัจฉริยะเพียง1900คนในชั้นที่24
ส่วนเหล่านักสู้ด้านล่างเหล่านั้นแทบจะไม่มีผู้ใดก้าวขึ้นมาได้อีก
เช่นกันในบรรดารุ่นเยาว์อัจฉริยะทั้ง1900คนบนชั้นที่24นี้
มันจะมีเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้ขึ้นต่อไปในชั้นที่25!
พรึบ! เสียงพัดผ่านชุดนักสู้ปลุกความเงียบหายไปในทันที
หลินหมิงลุกขึ้นแล้ว เหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะทั้งหลายที่อยู่ห่างออกไปเกือบ1000ฟุต
เริ่มตึงเครียดในทันที ยังมีบางคนเริ่มก้าวถอยหลังออกจากจุดเดิมโดยไม่รู้
ฟุบ! ก้าวย่างฟินิกซ์
หลินหมิงเคลื่อนไหวทันที พุ่งตัวหายไปในพริบตา หลินหลิงเร็วมากความเร็วของเขาแทบไม่มีใครมองเห็น
หลินหมิงปรากฎตัวต่อหน้าผู้เข้าร่วมผู้หนึ่งในพริบตา!
ผู้เข้าร่วมคนนี้นั้นสูงเพียงแค่หน้าอกของหลินหมิงเท่านั้น
เขาดูเตี้ยมากหากเทียบกับผู้อื่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยขน มันดูคล้ายกับลิงมากกว่า
ลักษณะเช่นนี้มันบ่งบอกถึงสายเลือดพิเศษอย่างชัดเจน
เมื่อผู้เข้าร่วมหน้าลิงเห็นหลินหมิงปรากฏตัวตัวต่อหน้าในพริบตา
เขาเกือบจะกัดลิ้นตัวเองด้วยความประหลาดใจ
“บัดซบ! ข้าทำไมโชคร้ายนักเล่า!?”
นี่ขนาดเขาอยู่ห่างมาตั้งไกลจากคนอื่น
แต่เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้กับยังเพ็งเล็งมาที่ตัวเขาได้ !
ในความรู้สึกลึกๆ
ผู้เยาว์หน้าลิงต้องการหลบหนีไปไกลกว่านี้ แต่ในชั้นที่24นี้
มันไม่ใช่มีสัตว์ประหลาดแค่ตัวสองตัวเท่านั้น โดยเฉพาะโยวซูจิน
สหายผู้นั้นยิ่งไม่สนใจผู้ใดเลย และในที่สุดเขาก็ไม่สามารถหลบได้พ้นเจอกับหนึ่งในสัตว์ประหลาดจนได้
แทนที่จะสุ่มเลือกผู้ใดก็ได้ ทำไมต้องเป็นเขา.
เช่นกันหากมีผู้เยาว์คนใดคนหนึ่งถูกเพ่งเล็งโดยเหล่าสัตว์ประหลาด
พวกเขาย่อมคิดไม่ต่างกันมากนัก “ทำไมข้าโชคร้ายนัก”
“เดี๋ยวก่อน!ท่าน... ท่านวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่....
ได้โปรดหยุดก่อน!”
ในขณะหลินหลิงกำลังก้าวเดินไปด้านหน้า
ผู้เยาว์หน้าลิง กรีดร้องแสงแหลมออกมาในทันที!
“หืม?” หลินหมิงชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย
ผู้เยาว์หน้าลิงถึงกับผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ก่อนจะกล่าวต่อว่า
“ท่านวีระบุรุษ..ไม่ต้องลงมือหรอก ข้า...จะออกไปจากตรงนี้เอง!”
ตึก! ตึก! ตึก!
ผู้เยาว์หน้าลิงหันหลังวิ่งตรงไปยังขอบแท่นผนึกเทวะชั้น24
โดยไม่รอช้าเขากระโดดลงไปในทันที!?.
อ่ะ..แบบนี้ก็ได้เหรอ?
ในความเป็นจริงการยอมรับความพ่ายแพ้โดยตั้งใจไม่ใช่เรื่องแปลก
และมันย่อมดีกว่าโดนทุบตีและพ่ายแพ้แน่นอน!
การต่อสู้บนแท่นผนึกเทวะนั้น
มันย่อมยืดเยื้ออย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการปีนขึ้นไปหรือการต่อสู้กับผู้อื่น
ทุกครั้งมันย่อมใช้ลมปราณจำนวนมาก.
ที่มากกว่านั้นความอ่อนล้าในแต่ละรอบมันยิ่งสะสมและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่ผู้เข้าร่วมจำนวนมากถูกกำจัดออกไป
ส่วนใหญ่ไม่ใช่เพราะพวกเข้าพ่ายแพ้5ครั้งหรือทนต่อแรงกดดันจากแท่นผนึกเทวะไม่ได้
แต่เป็นเพราะในแต่ละรอบพวกเขาต้องใช้พลังลมปราณจำนวนมากแทบจะหมดสิ้น
หลังจากนั้นพวกเขายังต้องใช้โอสถในการฟื้นฟูลมปราณที่เสียไป แต่ในทุกครั้งการใช้โอสถมันต้องใช้เวลาเพื่อขับเอาสิ่งตกค้างในโอสถออกและปรับลมปราณให้มั่นคง
ซึ่งพวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีเวลาและโอกาสเช่นนั้น ต่อหน้ากลุ่มผู้ที่เข้าร่วมต่อสู้
พวกเขาจะวางใจนั่งปรับแต่งลมปราณได้อย่างไร
ไม่ต้องกล่าวถึงคู่ต่อสู้ของพวกเขาจะเปิดโอกาสให้รึเปล่าล่ะ
ดังนั้นเมื่อไม่สามารถกำจัดของเสียจากโอสถและลมปราณให้มั่นคงเต็มที่ได้
พวกเขาจึงใช้ความสามารถออกมาได้ไม่ถึงครึ่ง และนั้นก็คือสาเหตุที่ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ถูกคัดออกโดยธรรมชาติ!
ดังนั้นบนชั้น24 หลินหมิงจึงชนะไปโดยปริยาย!!
ก้าวที่25 คู่ต่อสู้ยอมแพ้อีกครั้ง !
นักสู้ที่ยอมแพ้
มันไม่ใช่เพียงคู่ต่อสู้ของหลินหมิงเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงคู่ต่อสู้ของ
เขี้ยวมังกร ยอดนักดาบประกายโลหิตและโยวซูจิน!
จำนวนผู้เยาว์อัจฉริยะลดลงอีกครั้ง
ก้าวที่26คงเหลือ500คน!
จากเดิม300,000คน คงเหลือเพียงเท่านี้ !
อย่างไรก็ตามทั้ง500คนนี้
ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถผ่านเข้ารอบได้ !.
ในกลุ่มของหลินหมิง
มันมีเพียง300คนเท่านั้นที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ!.
300คนเหล่านี้จะถูกเลือกจากคนที่ปีนขึ้นไปถึงชั้นสูงสุดได้
ส่วนผู้ที่ได้ระดับใกล้เคียงกัน จะถูกประเมินจากผลการต่อสู้และระยะเวลาที่ใช้ไป
ดังนั้นแม้พวกเขาที่เหลืออยู่อาจะถูกเหล่าสัตว์ประหลาดเหยียบย้ำเมื่อไหร่ก็ได้
พวกเขายังคงกัดฟันทนติดตามอันดับแรกๆไป ทั้งหมดนี้ก็เพราะมันช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก
สำหรับบุคคลประเภท
เหลียนเยี่ยเอ่อร์และมังกรหนึ่ง แม้พวกเขาจะยังไม่ตกรอบ
แต่มันก็ยังเป็นไปได้ยากที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ
แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า99%ของผู้ที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศนั้น
ย่อมมาจากเหล่าผู้เข้าร่วมทั้ง500คนนี้
ส่วนคนที่เหลือแน่นอนว่าย่อมประสพกับพายุแห่งความโชคร้ายอย่างแน่นอน
พวกเขาที่เหลือต้องต่อสู้และต่อสู้ตลอดจนกว่าจสามารถปีนขึ้นมาเป็น1ใน300คนได้.
บนชั้น26แท่นผนึกเทวะ
แรงกดดันเพิ่มมากขึ้นในทันที!.
สายธารพลังงานจากฟ้าดินเริ่มเบาบางลงมาก
กลับกันแรงกดดันจากแท่นผนึกเทวะที่จัดทำเป็นแท่นผนึกเทวะกับรุนแรงมากยิ่งขึ้น!
ยิ่งกว่านั้น
ยิ่งสูงแรงกดดันยิ่งมีแต่เพิ่มมากขึ้น!
“แฮ่ก..แฮ่ก ..แฮ่ก! ข้า...ข้าปีนขึ้นไปต่อไม่ไหวแล้ว?”
ครึ่งทางระหว่างการปีนขึ้นไปชั้น26 ผู้เข้าร่วมบางคน
เริ่มปีนต่อไม่ไหวแล้ว ในยามนี้ทุกย่างก้าวที่ก้าวออกไปนั้นมันยากมาก
“ข้าสามารถต่อสู้เอาชนะคนอื่นมาได้ตั้งมากมาย... และ...ยังรักษาตำแหน่งในกลุ่มแรกไว้ได้...แต่ในตอนนี้ข้าปีนต่อไม่ไหวแล้ว?…”
อา...อ้าห์...!
ผู้เข้าร่วมผู้นี้ยังคงดิ้นรนเพื่ออยู่ต่อไป
แต่แรงกดดันจากชั้น26ยังคงสาดใส่เขาตลอดเวลา
ในที่สุดมือของเขาลื่นและตกลงไปในที่สุด !
ซึ่งนี้หมายความว่าหลังจากขั้นตอนดังกล่าว อีกครึ่งหนึ่งของเหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะจะถูกกำจัดออกไป!
กว่าครึ่งเริ่มถูกคัดออกไป
อัตราการคัดออกช่างน่ากลัวเกินไป ไม่นานนักจำนวนผู้ที่ยังอยู่บนแท่นผนึกเทวะที่ยังเหลืออยู่สามารถนับได้ด้วยนิ้วมือ!.
เวลานี้ เหล่าผู้เยาว์ผู้ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งอันดับต้นต้น
เช่น เขี้ยวมังกร ยอดนักดาบประกายโลหิตและหลินหมิงต่างก็ยังคงอยู่!
และนี่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้เยาว์อัจฉริยะที่แท้จริง
มันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน
By NSN
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น