วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ศิลาลึกลับกับวีรบุรุษ 1242

 

Chapter 1242 – จำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว

การต่อสู้ระหว่างหลินหมิงกับซือหยูอวิ้น นับเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกทั้งยังเป็นการต่อสู้ของนักสู้ในระดับสูงและน่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ หากนับจากจำนวนผู้ชม

บนแท่นผนึกเทวะชั้น23  โยวซูจินและยอดนักดาบประกายโลหิต หลังจากจัดการกับคู่ต่อสู้ได้แล้ว พวกเขาไม่ได้รีบร้อนขึ้นไปยังชั้นที่24แต่อย่างใด กับกันพวกเขาต่างเฝ้ามองการต่อสู้ของหลินหมิงอยู่เช่นกัน.

น่าสนใจโยวซูจินยิ้ม ก่อนที่จะหันหลังและเริ่มปีนขึ้นแท่นผนึกเทวะชั้นที่24

ยอดนักดาบประกายโลหิตเองก็เริ่มปีนขึ้นชั้นที่24เช่นกัน ในสายตาของพวกเขา หลิมหมิงเพียงน่าสนใจ แต่มันยังคงไม่มีอะไรให้พวกเขาวิตกกังวล

แต่มันไม่ใช่กับผู้เข้าร่วมคนอื่น แรงกดดันจากหลินหมิงที่เผยออกมามันมากเกินไป มันไม่อาจทำให้พวกเขาสงบได้อีกต่อไป

ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!”

สัตว์ประหลาดอีกตนหนึ่งชัดๆ

พวกเราจะเอาชนะเค้าได้รึ!”

มันดูเหมือนเขาจะไม่มีวันพ่ายแพ้ง่ายๆแน่!”

เดิมที่แค่ โยวซูจิน ยอดนักดาบประกายโลหิตและเขี้ยวมังกร มันก็ทำให้พวกเราอึดอัดแทบตายแล้ว นี่ยังมีหลินหมิงโผล่ออกมาอีก ต่อจากนี้ไปหากพวกเราไม่ระวัง คงได้ฉิบหายกันหมดแน่ !”

เหล่าผู้เข้าร่วมกว่า99% เริ่มขาดความมั่นใจ ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าพวกเขาไม่มีโอกาสชนะหลินหมิงได้เลย! อีกทั้งส่วนใหญ่ยังไม่มีความกล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับหลินหมิง!

ความแข็งแกร่งขนาดนี้ คนผู้นี้ ไม่ใช่เข้าร่วมจากโลกนักสู้ที่แท้จริงของเจ้าหรอกรึ! มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่แดนศักดิ์สิทธิระดับ3จากโลกนักสู้ที่แท้จริงจะบ่มเพาะสัตว์ประหลาดเช่นนี้ออกมาได้?.”

ผู้เข้าร่วมสะพายดาบ ผมเขียวกล่าวถามชายหนุ่มด้านข้างออกมาด้วยความแปลกใจ

เขาไม่ได้..หวูกุยอวิ้นไม่ได้กล่าวถึงหลินหมิงมากนัก หลินหมิงนับเป็นความอัปยศของเขาเช่นกัน

อืม..ถ้ามีบุคคลเช่นนี้อยู่ในโลกนักสู้แท้จริงจริง ข้าคงรู้จักเขาไปนานแล้ว เจ้าหวูกุยอวิ้นไม่ใช่อันดับ1จากโลกนักสู้ที่แท้จริงหรอกรึ ถึงแม้ว่าเขี้ยวมังกรคนนั้นจะไม่สามารถยั่วยุเขาได้ง่ายๆ แต่หลินหมิงผู้นี้คงจะโดดเด่นกว่าเจ้าในไม่ช้านี้แน่นอน เจ้ามีแผนจะทำยังไงต่อไปรึ?”

ในสายตาของผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียว ซือหยูอวิ้นนั้นมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิระดับที่3เท่านั้น นางย่อมอ่อนแอกว่าหวูกุยอวิ้นเช่นกัน หากหวูกุยอวิ้นต้องต่อสู้กับหลินหมิง มันคงไม่จบลงง่ายเช่นเดียวกับซือหยูอวิ้นกระมัง?

แต่สิ่งที่ผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวไม่ทราบก็คือ หวูกุยอวิ้นได้พ่ายแพ้ให้กับหลินหมิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระนั้นจะโทษผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมสีเขียวว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้ เหตุการณ์นั้นมันเกิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิมายา ผู้อื่นที่ไม่ใช่บุคคลที่ต่อสู้กันในดินแดนศักดิ์สิทธิมายา ย่อมไม่สามารถมองเห็นการต่อสู้ดังกล่าวได้.

ใครสนล่ะ? หากมีใครขวางทางข้า ข้าจะทำลายมันผู้นั้น ใครท้าทายข้าข้าย่อมรับคำท้าเช่นกัน อีกอย่างข้าดูเหมือนคนโง่ให้เจ้าหรอกใช้รึ?”.

ผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียว รู้สึกว่าคำตอบของหวูกุยอวิ้นดูไม่เหมือนหวูกุยอวิ้นคนเก่า ปกติหวูกุยอวิ้นคนนั้นเค้าจะต้องหยิ่งยโส โอ้อวดตัวเองซิถึงจะถูกต้อง นี่..ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะหลินหมิงได้ใช่มั้ย?”

ยิ่งคิดผู้เข้าร่วมสะพายดายผมเขียว ยิ่งรู้สึกว่ามันแปลกไปเล็กน้อย เป็นเรื่องธรรดาที่หวูกุยอวิ้นจะหลีกเลี่ยงเขี้ยวมังกร แต่หลินหลิงเพียงแค่เอาชนะนักสู้จากดินแดนระดับ3 ดังนั้นความสามารถของทั้งสองมันจึงน่าจะเท่าเทียมกันถึงจะถูก แต่ตอนนี้ฟังจากคำกล่าวของหวูกุยอวิ้น มันดูเหมือนเขาจะเคยพ่ายแพ้ให้กับหลินหมิงมาก่อน?!

 

เจ้าไม่ต้องมาห่วงข้าหรอก ห่วงตัวเองเถอะ ทำในสิ่งที่เจ้าต้องการ และนั้นมันคงไม่ใช่ปัญหาของข้าแน่นอน!?.”

หวูกุยอวิ้นไม่กล่าวใดใดออกมาอีก เขาก้าวออกไปและเริ่มปีนต่อไปยังชั้นที่24 เขาไม่ใช่คนโง่ หากกล่าวอะไรมากเกินไป ผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวต้องรู้แน่นอนว่าเขาเคยพ่ายแพ้หลินหมิงมาก่อน และนั้นจะทำให้ผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวเยาะเย้ยเขาอย่างแน่นอน แต่ที่หวูกุยอวิ้นมั่นใจมากก็คือ ในการต่อสู้ครั้งนั้นกับหลินหมิง หลินหมิงยังคงแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ

หวูกุยอวิ้นยังคงสงสัยว่า หากหลินหมิงต้องต่อสู้กับเขี้ยวมังกร ยอดนักดาบประกายโลหิตหรือบุคคลอื่นๆที่มีความแข็งแกร่งพอพอกัน หลินหมิงจะเอาชนะได้รึไม่ และ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลินหมิงนั้นมันมากมายขนาดไหนกัน?.

แต่ที่หวูกุยอวิ้นมั่นใจก็คือหากบุคคลใดก็ตามต้องเผชิญหน้ากับหลินหมิง หากหลบเลี่ยงไม่เร็วพอคงพบเจอโชคร้ายมากกว่าโชคดีเป็นแน่

สำหรับผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวนั้น หวูกุยอวิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะปะทะกับหลินหมิงในทันทีที่เจอกัน แน่นอนว่าหวูกุยอวิ้นไม่ได้หวังว่าผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวจะเอาชนะหลินหมิงได้ กลับกันเขาหวังที่จะเห็นผู้เข้าร่วมสะพายดาบผมเขียวต้องทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับตน และนี่เป็นเพียงความคิดของบุคคลที่เคยประสบกับความอัปยศมาก่อนและในอนาคตยังรู้ตัวดีว่าไม่สามารถแก้แค้นได้ เขาจึงหวังให้บุคคลอื่นประสบกับความพ่ายแพ้เช่นเดียวกับตน

หวูกุยอวิ้นยังคงปีนขึ้นไปชั้น24เช่นเดิม ด้วยความแข็งแกร่งของเขา การก้าวต่อไปไปอย่างมั่นคง และ หากไม่พบกับสัตว์ประหลาดอัจฉริยะ การผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศนับว่าไม่เป็นปัญหา

สุดยอด!” หลังจากความเงียบปกคลุมไปทั่วแท่นผนึกเทวะไปช่วงหนึ่ง เสียงอุทานเริ่มดังขึ้น หลินหมิงเอาชนะซือหยูอวิ้นนักสู้อันดับ1จากโลกแสงสีชาดได้! อีกทั้งมันเป็นการชนะอย่างง่ายดายด้วยซ้ำ!นี่..ผู้เยาว์อัจฉริยะอันดับ1จากดินแดนศักดิ์สิทธิอันดับ3เชียวนะ! อีกทั้งดูเหมือนหลินหมิงยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงอีกด้วย! โอ้...สวรรค์!”

สองฝาแฝดสาวเปล่งเสียงผ่านลมปราณบรรยายการต่อสู้ของหลินหมิงกับซือเสวี่ยว์เอ่อร์ดังก้องไปทั่วทั้งแท่นผนึกเทวะ แน่นอนว่าพวกเธอทั้งสองไม่อาจรู้ได้ว่าก่อนหน้านี้ หลินหมิงถูกทดสอบโดยจิตวิญญาณสิ่งประดิษฐ์แท่นผนึกเทวะมาก่อน

อา..ศิษย์พี่หลิน เอาชนะผู้เยาว์อัจฉริยะอันดับ1จากโลกแสงสีชาดได้? ยิ่งกว่านั้น..เขายังเอาชนะได้อย่างง่ายดายด้วย!?”

บนแท่นผนึกเทวะชั้นที่21 เหยี่ยนเยี่ยเอ่อร์ ตกตะลึงหลังจากได้ยินเสียงบรรยายของฝาแฝดสาว เนื่องจากเธออยู่คนละชั้นกับหลินหมิง เธอจึงไม่เห็นการต่อสู้ของหลินหมิง

โลกแสงสีชาด  นั่นไม่ใช่ที่ที่ตั้งเผ่าฟินิกซ์โบราณสาขาหลักหรอกรึ สำหรับเผ่าฟินิกซ์โบราณ ดินแดนศักดิ์สิทธิแสงสีชาดในโลกแสงสีชาด ไม่ต่างอันใดกับขุนเขาอันกว้างใหญ่ที่ไม่อาจข้ามผ่าน  แต่หลินหมิงกับทำให้อัจฉริยะอันดับ1จากดินแดนศักดิ์สิทธิแสงสีชาดพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย!!!.

เหยี่ยนเยี่ยเอ่อร์ รู้สึกว่ามันค่อนข้างเหลือเชื่อ ในขณะเดียวกัน เหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์โบราณเริ่มตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ศิษย์พี่หลินหมิง.. สุดยอด...

ศิษย์พี่หลินหมิง ข้ารักท่าน!”

ศิษย์พี่...แข็งแกร่งสุดยอด!”

นี่..คือศิษย์พี่หลินหลิงจากเผ่าฟินิกซ์โบราณของพวกเราเอง ฮ่า ..ฮ่า ฮ่า

 สู้ได้ดี...ยอดเยี่ยมมาก!”

เผ่าฟินิกซ์โบราณของพวกเรา สามารถผงาดขึ้นได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว!”

เหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นยินดี ดินแดนศักดิ์สิทธิแสงสีชาดกดดันพวกเขามานานมากแล้ว และพวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้ใดใด แต่ในวันนี้หลินหมิงกับทำได้ อีกทั้งยังทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

หลินหมิงต่อสู้กับดินแดนศักดิ์สิทธิแสงสีชาดอย่างยุติธรรมและกวาดล้างอัจฉริยะอันดับ1ได้อย่างงดงาม นี่จะไม่ทำให้พวกเขาดีใจ ตื่นเต้น สะใจ ได้อย่างไรกัน?

บนแท่นผนึกเทวะชั้นที่24 จำนวนนักสู้กลุ่มแรกในปัจจุบันมันลดลงไปมากกว่าครึ่ง ณ ตอนนี้เหลือแค่ 1600 คนเท่านั้น .

แม้หลังจากทั้งหมดบนชั้น24 นั่งลง ยืนรอ เพื่อฟื้นฟูลมปราณ มันก็มีคนเพิ่มอีกแค่200-300คนนั้น

ตั้งแต่เริ่มการประลอง เหล่าผู้ชนะในช่วงแรกๆต่างก็ทยอยขึ้นมาถึงชั้นที่24ได้ แต่บรรดาเหล่าผู้ที่ตามหลังทั้งหลาย ถึงแม้ว่าจะเอาชนะคู่ต่อสู้และตามหลังมาตลอด นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจำเป็นต้องขึ้นไปบนชั้น24เสมอไป

พวกเขาบางคนหลังจากพ่ายแพ้ให้กับผู้แข็งแกร่งกว่าทั้งหลายแล้ว แม้ว่าจิตวิญญาณสิ่งประดิษฐ์แท่นผนึกเทวะจะรักษาพวกเขาจนหายสนิทแล้ว แต่พลังลมปราณที่ใช้ไป มันยังคงไม่พอชดเชยกับที่ต้องใช้ไปก่อนหน้านี้ได้

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถพ่ายแพ้ได้ถึง4ครั้ง แต่การพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวพวกเขาบางคนยังต้องใช้พลังลมปราณไปจนเกือบจะเหือดแห้งแล้ว แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัด

บนชั้นที่24 หลินหมิงเองก็กำลังนั่งสมาธิเพื่อฟื้นฟูพลังลมปราณที่เสียไปเช่นกัน อันที่จริงหลินหมิงไม่จำเป็นต้องฟื้นฟูใดใดก็ได้ นั้นเพราะการต่อสู้ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ใช้ลมปราณมากมายเท่าใดนัก อีกทั้งกระดูกราชันมังกรในร่างกับประตูแห่งชีวิต ยังช่วยเข้าฟื้นฟูตัวเองอยู่แทบจะตลอดเวลา เพียงแต่ว่าหลินหมิงต้องการอยู่ในสภาพที่เต็ม100มากที่สุดเท่านั้นเอง ในเวลานี้พื้นที่รอบตัวหลินหมิงยาวออกไปนับ1000ฟุต ไม่มีผู้ใดอยู่เลย มันช่างเงียบเชียบเหลือเกิน !

ที่ระยะห่างเกิน1000ฟุตรอบตัวหลินหมิง เหล่าผู้เข้าร่วม ต่างมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาระแวงและหวาดกลัว.

นี่มีเพียงตัวตนเช่นเขี้ยวมังกรและยอดนักดาบประกายโลหิตที่จะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ มันเป็นการยอมรับอย่างหนึ่ง !

จากความแข็งแกร่งที่หลินหมิงเปิดเผยออกมา เขานั้นได้รับการยอมรับให้เป็น1ใน10อันดับแรกในรอบรองชนะเลิศแล้ว

ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ศิษย์พี่หลินเลย!”

พวกขี้แพ้ทั้งหลาย พยายามซ่อนตัวจากศิษย์พี่หลิน... นี่มันช่างน่ากลัวจริงจริง!”

สุดยอด! เหตุการณ์เช่นนี้มันมีเพียงอัจฉริยะ10อันดับแรกเท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับเช่นนี้ แต่ศิษย์พี่หลินนั้น..ระดับบ่มเพาะของเขาต่ำกว่าผู้อื่นมากที่สุด! ”

การนั่งสมาธิอยู่ผู้เดียวบนแท่นผนึกเทวะ และเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายยังเว้นระยะห่างออกไปนับ1000ฟุตเช่นนี้ มันนับเป็นความเงียบเหงาของปรมาจารย์แล้ว

เหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์โบราณต่างตะโกนออกมาเสียงดังสนั่น ในเวาลาเดียวกันการต่อสู้ในชั้นที่24กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า!

ณ ขณะนี้มันมีเพียงรุ่นเยาว์อัจฉริยะเพียง1900คนในชั้นที่24 ส่วนเหล่านักสู้ด้านล่างเหล่านั้นแทบจะไม่มีผู้ใดก้าวขึ้นมาได้อีก

เช่นกันในบรรดารุ่นเยาว์อัจฉริยะทั้ง1900คนบนชั้นที่24นี้ มันจะมีเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้ขึ้นต่อไปในชั้นที่25!

พรึบ! เสียงพัดผ่านชุดนักสู้ปลุกความเงียบหายไปในทันที หลินหมิงลุกขึ้นแล้ว เหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะทั้งหลายที่อยู่ห่างออกไปเกือบ1000ฟุต เริ่มตึงเครียดในทันที ยังมีบางคนเริ่มก้าวถอยหลังออกจากจุดเดิมโดยไม่รู้

ฟุบ! ก้าวย่างฟินิกซ์

หลินหมิงเคลื่อนไหวทันที พุ่งตัวหายไปในพริบตา  หลินหลิงเร็วมากความเร็วของเขาแทบไม่มีใครมองเห็น หลินหมิงปรากฎตัวต่อหน้าผู้เข้าร่วมผู้หนึ่งในพริบตา!

ผู้เข้าร่วมคนนี้นั้นสูงเพียงแค่หน้าอกของหลินหมิงเท่านั้น เขาดูเตี้ยมากหากเทียบกับผู้อื่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยขน มันดูคล้ายกับลิงมากกว่า ลักษณะเช่นนี้มันบ่งบอกถึงสายเลือดพิเศษอย่างชัดเจน

เมื่อผู้เข้าร่วมหน้าลิงเห็นหลินหมิงปรากฏตัวตัวต่อหน้าในพริบตา เขาเกือบจะกัดลิ้นตัวเองด้วยความประหลาดใจ

บัดซบ! ข้าทำไมโชคร้ายนักเล่า!?”

นี่ขนาดเขาอยู่ห่างมาตั้งไกลจากคนอื่น แต่เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้กับยังเพ็งเล็งมาที่ตัวเขาได้ !

ในความรู้สึกลึกๆ ผู้เยาว์หน้าลิงต้องการหลบหนีไปไกลกว่านี้ แต่ในชั้นที่24นี้ มันไม่ใช่มีสัตว์ประหลาดแค่ตัวสองตัวเท่านั้น โดยเฉพาะโยวซูจิน สหายผู้นั้นยิ่งไม่สนใจผู้ใดเลย และในที่สุดเขาก็ไม่สามารถหลบได้พ้นเจอกับหนึ่งในสัตว์ประหลาดจนได้ แทนที่จะสุ่มเลือกผู้ใดก็ได้ ทำไมต้องเป็นเขา.

เช่นกันหากมีผู้เยาว์คนใดคนหนึ่งถูกเพ่งเล็งโดยเหล่าสัตว์ประหลาด พวกเขาย่อมคิดไม่ต่างกันมากนัก ทำไมข้าโชคร้ายนัก

เดี๋ยวก่อน!ท่าน... ท่านวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่.... ได้โปรดหยุดก่อน!”

ในขณะหลินหลิงกำลังก้าวเดินไปด้านหน้า ผู้เยาว์หน้าลิง กรีดร้องแสงแหลมออกมาในทันที!

หืม?” หลินหมิงชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย

ผู้เยาว์หน้าลิงถึงกับผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะกล่าวต่อว่าท่านวีระบุรุษ..ไม่ต้องลงมือหรอก ข้า...จะออกไปจากตรงนี้เอง!”

ตึก! ตึก! ตึก!

ผู้เยาว์หน้าลิงหันหลังวิ่งตรงไปยังขอบแท่นผนึกเทวะชั้น24 โดยไม่รอช้าเขากระโดดลงไปในทันที!?.

อ่ะ..แบบนี้ก็ได้เหรอ?

ในความเป็นจริงการยอมรับความพ่ายแพ้โดยตั้งใจไม่ใช่เรื่องแปลก และมันย่อมดีกว่าโดนทุบตีและพ่ายแพ้แน่นอน!

การต่อสู้บนแท่นผนึกเทวะนั้น มันย่อมยืดเยื้ออย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการปีนขึ้นไปหรือการต่อสู้กับผู้อื่น ทุกครั้งมันย่อมใช้ลมปราณจำนวนมาก.

ที่มากกว่านั้นความอ่อนล้าในแต่ละรอบมันยิ่งสะสมและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่ผู้เข้าร่วมจำนวนมากถูกกำจัดออกไป ส่วนใหญ่ไม่ใช่เพราะพวกเข้าพ่ายแพ้5ครั้งหรือทนต่อแรงกดดันจากแท่นผนึกเทวะไม่ได้ แต่เป็นเพราะในแต่ละรอบพวกเขาต้องใช้พลังลมปราณจำนวนมากแทบจะหมดสิ้น หลังจากนั้นพวกเขายังต้องใช้โอสถในการฟื้นฟูลมปราณที่เสียไป แต่ในทุกครั้งการใช้โอสถมันต้องใช้เวลาเพื่อขับเอาสิ่งตกค้างในโอสถออกและปรับลมปราณให้มั่นคง ซึ่งพวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีเวลาและโอกาสเช่นนั้น ต่อหน้ากลุ่มผู้ที่เข้าร่วมต่อสู้ พวกเขาจะวางใจนั่งปรับแต่งลมปราณได้อย่างไร ไม่ต้องกล่าวถึงคู่ต่อสู้ของพวกเขาจะเปิดโอกาสให้รึเปล่าล่ะ ดังนั้นเมื่อไม่สามารถกำจัดของเสียจากโอสถและลมปราณให้มั่นคงเต็มที่ได้ พวกเขาจึงใช้ความสามารถออกมาได้ไม่ถึงครึ่ง และนั้นก็คือสาเหตุที่ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ถูกคัดออกโดยธรรมชาติ!

ดังนั้นบนชั้น24 หลินหมิงจึงชนะไปโดยปริยาย!!

ก้าวที่25 คู่ต่อสู้ยอมแพ้อีกครั้ง !

นักสู้ที่ยอมแพ้ มันไม่ใช่เพียงคู่ต่อสู้ของหลินหมิงเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงคู่ต่อสู้ของ เขี้ยวมังกร ยอดนักดาบประกายโลหิตและโยวซูจิน!

จำนวนผู้เยาว์อัจฉริยะลดลงอีกครั้ง ก้าวที่26คงเหลือ500คน!

จากเดิม300,000คน คงเหลือเพียงเท่านี้ !

อย่างไรก็ตามทั้ง500คนนี้ ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถผ่านเข้ารอบได้ !.

ในกลุ่มของหลินหมิง มันมีเพียง300คนเท่านั้นที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ!.

300คนเหล่านี้จะถูกเลือกจากคนที่ปีนขึ้นไปถึงชั้นสูงสุดได้ ส่วนผู้ที่ได้ระดับใกล้เคียงกัน จะถูกประเมินจากผลการต่อสู้และระยะเวลาที่ใช้ไป ดังนั้นแม้พวกเขาที่เหลืออยู่อาจะถูกเหล่าสัตว์ประหลาดเหยียบย้ำเมื่อไหร่ก็ได้ พวกเขายังคงกัดฟันทนติดตามอันดับแรกๆไป ทั้งหมดนี้ก็เพราะมันช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก 

สำหรับบุคคลประเภท เหลียนเยี่ยเอ่อร์และมังกรหนึ่ง แม้พวกเขาจะยังไม่ตกรอบ แต่มันก็ยังเป็นไปได้ยากที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า99%ของผู้ที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศนั้น ย่อมมาจากเหล่าผู้เข้าร่วมทั้ง500คนนี้ ส่วนคนที่เหลือแน่นอนว่าย่อมประสพกับพายุแห่งความโชคร้ายอย่างแน่นอน พวกเขาที่เหลือต้องต่อสู้และต่อสู้ตลอดจนกว่าจสามารถปีนขึ้นมาเป็น1ใน300คนได้.

บนชั้น26แท่นผนึกเทวะ แรงกดดันเพิ่มมากขึ้นในทันที!.

สายธารพลังงานจากฟ้าดินเริ่มเบาบางลงมาก กลับกันแรงกดดันจากแท่นผนึกเทวะที่จัดทำเป็นแท่นผนึกเทวะกับรุนแรงมากยิ่งขึ้น!

ยิ่งกว่านั้น ยิ่งสูงแรงกดดันยิ่งมีแต่เพิ่มมากขึ้น!

แฮ่ก..แฮ่ก ..แฮ่ก! ข้า...ข้าปีนขึ้นไปต่อไม่ไหวแล้ว?”

ครึ่งทางระหว่างการปีนขึ้นไปชั้น26 ผู้เข้าร่วมบางคน เริ่มปีนต่อไม่ไหวแล้ว ในยามนี้ทุกย่างก้าวที่ก้าวออกไปนั้นมันยากมาก

ข้าสามารถต่อสู้เอาชนะคนอื่นมาได้ตั้งมากมาย... และ...ยังรักษาตำแหน่งในกลุ่มแรกไว้ได้...แต่ในตอนนี้ข้าปีนต่อไม่ไหวแล้ว?…”

อา...อ้าห์...!

ผู้เข้าร่วมผู้นี้ยังคงดิ้นรนเพื่ออยู่ต่อไป แต่แรงกดดันจากชั้น26ยังคงสาดใส่เขาตลอดเวลา ในที่สุดมือของเขาลื่นและตกลงไปในที่สุด !

ซึ่งนี้หมายความว่าหลังจากขั้นตอนดังกล่าว อีกครึ่งหนึ่งของเหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะจะถูกกำจัดออกไป!

กว่าครึ่งเริ่มถูกคัดออกไป อัตราการคัดออกช่างน่ากลัวเกินไป ไม่นานนักจำนวนผู้ที่ยังอยู่บนแท่นผนึกเทวะที่ยังเหลืออยู่สามารถนับได้ด้วยนิ้วมือ!.

เวลานี้ เหล่าผู้เยาว์ผู้ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งอันดับต้นต้น เช่น เขี้ยวมังกร ยอดนักดาบประกายโลหิตและหลินหมิงต่างก็ยังคงอยู่!

และนี่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้เยาว์อัจฉริยะที่แท้จริง มันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน

 

 

 

                                                                                                                                                                                    By NSN

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Facebook