Chapter 1251 – ปีนแท่นผนึกเทวะ
ตึก ! ตึก ! ตึก !
“มันกับสามารถหลอมรวมกฎมิติเข้ากับดาบได้
เพียงแค่ใช้แรงสั่นสะเทือนจาก กฎมิติ มันกับทำลาย กฎแห่งลมของข้าได้ !”
หลังจากการโจมตีของยอดนักดาบประกายล้มเหลว
เขาก้าวถอยห่างออกมาในทันที การโจมตีของเขี้ยวมังกรมันน่าตกตะลึงมากเกินไป
ด้วยการโจมตีของเขาที่ผ่านมา เขาได้หลอมรวมกฎแห่งลมเข้ากับดาบ
มันทำให้ความแข็งแกร่งของดาบทั้งหมดภายในพื้นทีรุนแรงมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งทักษะนี้มันยังดูคล้ายเขตแดนประเภทหนึ่ง !
ทักษะนี้ของยอดนักดาบประกายโลหิตยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้พื้นแท่นผนึกเทวะสั่นสะเทือน
มันเป็นเพียงการสร้างปรากฎการณ์ที่คล้ายคลึงกันเล็กน้อย
แต่มันก็ยังนับว่าน่าทึ่งพอแล้ว และ
ยอดนักดาบประกายโลหิตยังใช้มันเอาชนะคู่ต่อสู้มากมายนับจากเวลาที่ผ่านมา
.
แต่ในยามนี้
ทักษะดังกล่าวกับถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย โดยเขี้ยวมังกร
ความเข้าใจในกฎมิติของเขาช่างน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง
.
“น่ากลัวเกินไปแล้ว ! ยอดนักดาบประกายโลหิตกำดาบในมือแน่น
ตัวตนของเขี้ยวมังกรตรงหน้าทำให้เขาตระหนักถึงความอ่อนแอของตัวเอง
อีกทั้งเขี้ยวมังกรผู้นี้ยังนับเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดนับตั้งแต่เขาเข้าร่วมประลอง
ควับ !
เขี้ยวมังกรยกดาบขึ้นอีกครั้ง
!
.
ในขณะที่เขี้ยวมังกรยกดาบขึ้น
ดาบของเขาปรากฏแสงเจิดจ้าออกมา ในเวลาเดียวกันม่านตาของเขาเริ่มเปลี่ยนไป
มันปรากฎอักขระลึกลับมากมายนับไม่ถ้วนรอบรอบตาดำของเขา
ดวงตาของเขาในยามนี้มันเต็มไปด้วยความลึกลับ และ ความมืดมิดไร้ขีดจำกัด
นี่ทำให้ไม่มีใครสามารถมองตาของเขาได้โดยตรง !
“นี่
คือ !?”
พิ้งงง !
เมื่อยอดนักดาบประกายโลหิตมองเข้าไปในดวงตาของเขี้ยวมังกร
เขารู้สึกได้ทันทีว่า ร่างกายของเขาแข็งเกร็งและรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว
ในเวลาเดียวกันดาบของเขี้ยวมังกรถูกฟันออกมาอีกครั้งแล้ว !
“อะไร!?”
ยอดนักดาบประกายโลหิตตกใจอย่างแท้จริง
!
วิ้ง วิ้ง วิ้ง !
ภาพเงาสะท้องในความว่างเปล่า
แบ่งออกเป็นแปดในพริบตา นี่คือความเข้าใจในกฎมิติระดับ 5!
ระดับ5
กฎมิตินั้นขึ้นชื่อในด้านทำความเข้าใจได้ยากกว่ากฎธาตุใดใด ! แม้กระทั่งโยวซูจินยังทำได้เพียงแตะถึงแค่ธรณีประตูระดับ5เท่านั้น ภาพเงาสะท้อนเพียงแค่4ยังทำให้ผู้คนตกใจ
แต่ตอนนี้เขี้ยวมังกรกับเข้าถึงกฎมิติระดับ5 แสดงภาพเงาสะท้อนถึง 8 !
เป็นไปได้ยังไง.....
ยอดนักดาบประกายโลหิตรู้สึกราวกับร่างกายถูกแช่แข็ง
ในขณะที่เขี้ยวมังกรเปิดเผยความแข็งแกร่งออกมา
นี่มันเกือบจะทำให้จิตแห่งดาบของเขาถูกทำลาย อีกทั้งมันยังทำให้เขารู้สึกไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน
ความแข็งแกร่งมันแตกต่างกันมากเกินไป
!
ป้องกัน ต่อต้าน
หรือการตอบโต้ใดใดช่างไร้ประโยชน์ !
“คลื่นดาบทะลายดวงดาว !”
ถึงกระนั้นยอดนักดาบประกายโลหิตยังนับเป็นอัจฉริยะผู้หนึ่ง เขากัดฟันพร้อมกับเปิดใช้ทักษะคลื่นดาบทะลายดวงดาวในทันที ! มันเป็นการโจมตีด้วยทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
ในเวลานี้แสงดาวบนท้องฟ้าดูเหมือนจะรวมตัวเข้าด้วยกัน ก่อนที่แสงเหล่านี้จะหล่นลงจากท้องฟ้าราวกับสายธารแสงดาว
ปัง ปัง ปัง !
อย่างไรก็ตาม
เมื่อสายธารแสงดาวปะทะกับการโจมตีของเขี้ยวมังกร
มันกับถูกทำลายลงในพริบตาจากร่างเงาสะท้อนทั้ง8 !
ฟุบ !
แปดร่างรวมเป็นหนึ่งก่อนที่จะปรากฏตัวด้านหลังยอดนักดาบประกายโลหิต
ราวกับภูตผี
พร้อมกับใบมีดโค้งจากดาบเขี้ยวมังกรสัมผัสหลังของยอดนักดาบประกายโลหิต !.
“เจ้าแพ้แล้ว !.”
เขี้ยวมังกรกล่าวเสียงเบา.
ณ
เวลาเดียวกันร่างกายของยอดนักดาบสั่นด้วยความหวาดกลัว ไม่อาจขยับได้แม้แต่ปลายนิ้ว
ฝ่ามือและหลังของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ !
น่าหวาดเสียวยิ่งนัก !
นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้
ยามที่เขี้ยวมังกรโจมตีเข้ามา ยอดนักดาบประกายโลหิตเผลอสบตากับเขี้ยวมังกร
ในขณะนั้นม่านตาของเขาขยายขึ้น มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาได้ตายไปแล้ว
ไม่มีทางที่จะขัดขืน !
ติ้ง ติ้ง !
หยดเหงื่อตกลงสู่พื้น
มันกลิ้งลงมาจากปลายนิ้วของยอดนักดาบประกายโลหิต
ในส่วนของคลื่นพลังงานที่ยังคงล่องลอยอยู่ในอากาศ
มันกำลังถูกย่อยสลายโดยแรงกดดันที่มองไม่เห็นจากแท่นผนึกเทวะ
ก่อนจะกลายเป็นหมอกและหายไปในที่สุด !
ยอดนักดาบประกายโลหิตยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้น
เช่นเดียวกับเหล่าผู้ชมหลายพันล้านคนที่ตกอยู่ในความเงียบโดยสิ้นเชิง
!
ความแข็งแกร่งของเขี้ยวมังกรช่างน่าสะพรึงกลัวโดยแท้
!
บนท้องฟ้าในเวลาไม่นานนัก
เสี่ยวเต๋าจื่อ ลุกขึ้นแล้ว สายตาของของเพ่งมองไปที่เขี้ยวมังกร
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
“นี่ยังเป็นเพียงรอบรองชนะเลิศเท่านั้น
แต่มันกับมีอัจฉริยะไร้ผู้ใดเทียบได้ปรากฏตัวออกมา
ศักยภาพของเขี้ยวมังกรผู้นี้ช่างเหนือล้ำเกินบรรยาย” เสี่ยวเต๋าจื่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
นี่นับเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง
“ข้าต้องแจ้งให้ศิษย์พี่เอกไพศาลทราบ
แต่....มันยังมีแนวโน้มที่ศิษย์พี่น่าจะให้ความสนใจที่นี่แล้วเช่นกัน...”
หลังจากความเงียบกินเวลาไปเพียงไม่นาน
เสียงสนทนาเริ่่มปะทุ
.
“เขี้ยวมังกรแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
!
ถึงแม้ยอดนักดาบประกายโลหิตอาจจะดูด้อยกว่าโยวซูจินเล็กน้อย
แต่เขายังนับเป็นอัจฉริยะจากดินแดนแสงศักดิ์สิทธิแห่งใหม่ จาก 100พิภพ
อีกทั้งดินแดนแสงศักดิ์สิทธิแห่งใหม่ยังเป็นดินแดนที่มีราชันพิภพปกครองและยังอยู่ในพิภพอันดับ1อีกด้วย
ถึงกระนั้นในตอนนี้ดูเหมือนยอดนักดาบประกายโลหิตจะไม่มีความมั่นใจมากพอจะเอาชนะเขี้ยวมังกรได้
!”
“นี่ไม่สามารถตำหนิยอดนักดาบประกายโลหิตได้
เมื่อโดนการโจมตีจากร่างเงาสะท้อนทั้ง8 มันไม่อาจต้านทานได้อยู่แล้วและนั่นมันเป็นสองเท่าร่างเงาสะท้อนของโยวซูจินเชียวนะ! อายุของเขายังน้อยอยู่เลย
แต่เขากับเข้าถึงกฎมิติระดับห้าได้ นี่มันศักยภาพระดับยอดอัจฉริยะไร้ที่เปรียบแล้ว
!”
“ กฎมิติมันเข้าถึงได้ยากกว่ากฎธาตุทั้ง5 แต่เมื่อเข้าถึงได้แล้ว มันย่อมเพิ่มความแข็งแกร่งได้มาก! มันยากที่จะบอกได้ถึงความสำเร็จในอนาคตของเขี้ยวมังกร
แม้แต่เหล่าบุตรหลานราชันสวรรค์ทั่วไปยังเทียบกับเขาได้ยาก ”
“เขี้ยวมังกรดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าหลินหมิงมาก
!”
“จักรวาลไร้ขอบเขต มันยังมีภูเขาสูงและสูงกว่า เช่นเดียวกับมันย่อมมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเสมอ
นี่ไม่น่าแปลกใจอันใด ! หากสิ่งนี้เกิดกับเหล่าอัจฉริยะนับพันล้านชีวิตจากดินแดนศักดิ์สิทธิทั้งหมด
มันย่อมเป็นไปไม่ได้
การรวมตัวกันในการประลองครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์ครั้งนี้มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ”
การประลองในครั้งนี้
มันมีอัจฉริยะมากมายเหลือเกิน !
เขี้ยวมังกร เสี่ยวโม่เชี่ยน
ราชันขาว ธิดาน้ำแข็งมายา หลินหมิง …
เมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขา
โยวซูจินถูกบดบังอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากอายุของหลินหมิง เขาจึงดูอ่อนด้อยกว่าเล็กน้อยในหลายๆด้าน.
ณ ขณะนี้โยวซูจินยังคงยืนอยู่บนแท่นผนึกเทวะ
การต่อสู้ของเขี้ยวมังกรกับยอดนักดาบประกายโลหิต เขาเองย่อมมองเห็นได้อย่างชัดเจน
รอยยิ้มอันน่าสังเวชปรากฏอยู่บนใบหน้าเขา
เขารู้ว่าเขี้ยวมังกรอายุน้อยกว่าเขาหลายปี
แต่มันยังไม่ใช่แค่นั้น กฎมิติที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุดกับอ่อนด้อยกว่าเขี้ยวมังกรอย่างชัดเจน
!
หนึ่งในการโจมตีอันยิ่งใหญ่ที่ส่งผลต่อความคิดของตัวเอง
นั้นคือการเอาชนะได้อย่างสมบูรณ์แบบในสิ่งที่ตัวเองถนัดและภาคภูมิใจ
การแข่งขันบนแท่นผนึกเทวะในครั้งนี้ มันสร้างรอยร้าวอย่างมากบนจิตใจของโยวซูจิน
และนี่จะส่งผลต่อความมั่นใจในอนาคตของเขาอีกด้วย !
“สุดยอด !”
“เยี่ยม !”
“เขี้ยวมังกร !.”
“เขี้ยวมังกร !.”
ในเวลาเดียวกันเสียงตะโกนดังสนั่นทั่วอัศจรรย์ผู้ชม
หลังจากเงียบหายไปไม่นาน !
ทุกคนต่างขานชื่อเขี้ยวมังกร
ทั่วทั้งอัศจรรย์เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความบ้าคลั่ง !
“แข็งแกร่งมาก! บางทีในการประลองครั้งนี้
เขี้ยวมังกรอาจจะได้ต่อสู้กับเสี่ยวเชี่ยนและคนอื่นๆได้ ”
“ใช่แล้ว
ในรอบรองชนะเลิศบนดาวคำสาปจันทรา เขี้ยวมังกรแข็งแกร่งที่สุด ในยามนี้เขาได้แสดงความเข้าในในกฎมิติถึงระดับห้าและเอาชนะยอดนักดาบประกายโลหิตลงได้อย่างง่ายดาย และนี่ดูเหมือนเขายังไม่ได้เปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา
ใครกล้ากล่าวว่าเขาไม่มีทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดของตัวเองเล่า?!”
“เมื่อกล่าวถึงทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุด สามอันดับแรกบนตราประทับเทพ
ย่อมมีอยู่ในครอบครองแน่นอน และเขี้ยวมังกรย่อมเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน ! อย่างไรก็ตามมันยังไม่แน่ว่าเขาจะเอาชนะบุตรหลานราชันสวรรค์ได้ ในระดับเช่นเสี่ยวโม่เชี่ยนเรายังไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งมาก่อน
แต่สำหรับหลินหมิง แม้ศักยภาพของเขาจะสูงมาก แต่ความแข็งแกร่งของเขายังขาดอยู่
มันไม่น่าจะเป็นปัญหาหากเขาจะติด1ใน10อันดับบนตราประทับเทพ
แต่การไปถึง10อันดับตราประทับสวรรค์นั้นมันยังยากเกินไป !”
“ในอนาคตเขี้ยวมังกรกับหลินหมิงจะกลายเป็นมหาราชันพิภพได้อย่างแน่นอน
สองมหาราชันพิภพในอนาคตทั้งสองมารวมตัวกันที่นี่
ช่างเป็นเรื่องที่ผิดปกติเสียนี่กระไร !?”
ผู้คนหลายพันล้านต่างสนทนากันอย่างเมามันส์
ณ เผ่าฟินิกซ์โบราณ นางฟ้า เฟิง หัวใจเต้นรัว ผู้เยาว์เหล่านี้น่ากลัวเกินไปแล้ว !
“เขาแข็งแกร่งจริงๆ” หลินหมิงกล่าวในใจในขณะที่เขามองไปทางเขี้ยวมังกร
แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดในการต่อสู้กับโยวซูจิน
แต่เขาก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเขี้ยวมังกรยังเก็บซ่อนความแข็งแกร่งไว้มากขนาดไหนเช่นกัน ?
ยอดนักดาบประกายโลหิตยังไม่มีคุณสมบัติมากพอให้เขี้ยวมังกรเปิดเผยความแข็งแกร่งทั้งหมด
.
ในความคิดของหลินหมิง
เขี้ยวมังกรดูลึกลับมาก อีกทั้งเขายังเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง !
เขี้ยวมังกรผู้นี้ประสบโชคมามากขนาดไหน.
……………….
“ผู้เยาว์เหล่านี้…”
พระราชวังสวรรค์
ราชันพิภพเอกไพศาลลูบหน้าผากของเขา หลังจากพยายามครุ่นคิดและกลั่นกรองความทรงจำ.
เหล่าราชันพิภพเองยังตกะลึงเมื่อเห็นการโจมตีสุดท้ายของเขี้ยวมังกร
หลินหมิงอาจจะทำให้พวกเขาตกใจแต่เขี้ยวมังกรกับทำให้พวกเขาหวาดกลัว .
พวกเขาไม่มีใครรู้สึกว่าวิธีการของเขี้ยวมังกรมันแปลกตรงไหน
ถึงแม้พวกเขาอาจจะสังเกตเห็นแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก ในดินแดนศักดิ์สิทธิอันกว้างใหญ่
สายโลหิตพิเศษหรือร่างกายพิเศษ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยหากจะมีดวงตาพิเศษปรากฎออกมา.
ราชันพิภพเอกไพศาลครุ่นคิดอยู่นาน
ก่อนที่เขาจะขยับมือสร้างตราประทับ บันทึกเขตแดนของหลินหมิงกับรายละเอียดเกี่ยวกับดวงตาพิเศษของเขี้ยวมังกร
แจ้งเตือนไปยังอาจารย์ของเขา ราชันสวรรค์เอกอนันต์ !
ณ เวลานี้เสียงตะโกน
เสียงสนทนา
คำกล่าวชื่นชมอย่างตื่นเต้นยังคงดังต่อเนื่องยาวนานนับ4ชั่วโมงก่อนจะค่อยๆสงบลง
ในเวลาเดียวกัน
เสี่ยวเต๋าจื่อผู้ควบคุมการแข่งขัน
ลอยตัวขึ้นสูงเหนือแท่นผนึกเทวะก่อนที่จะก้มลงมามองหลินหมิงกับเขี้ยวมังกร .
“พวกเจ้าทั้งสอง....ทำได้ดีมาก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าเป็นผู้ควบคุมการประลอง แต่ในช่วงหลายแสนปีที่ผ่านมา
มีคนน้อยกว่า10คนที่ได้รับคำชมจากข้า แต่ในรอบรองชนะเลิศครั้งนี้มันกับมีถึง2คน!.”
“ในชีวิตข้า...ข้าได้พบเจออัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วน
หลายคนมีศักยภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ในรุ่นของพวกเขา
แต่พวกเจ้ากับสร้างความประทับใจให้ข้าได้อย่างลึกซึ้ง
และเหตุผลก็คือ.....ภูมิหลังของพวกเจ้า !”
“แท่นผนึกเทวะวางอยู๋ตรงหน้าพวกเจ้า ชั้นที่32 ชั้นที่33
ปีนขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่พวกเจ้าจะทำได้ ผลักดัน รีดเข้นขีดจำกัดของพวกเจ้า
ให้ข้าได้เห็นว่าพวกเจ้าจะไปได้ไกลแค่ไหน !”
เสี่ยวเต๋าจื่อไม่เคยกล่าวอะไรมากมายตั้งแต่เริ่มการประลองต่อสู้ครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์
นอกจากบอกกล่าวเรื่องกติกาแล้ว คำกล่าวของเขาสามารถนับคำได้เลย.
ถึงกระนั้นเสี่ยวเต๋าจื่อกับกล่าวว่า “พวกเจ้าสามารถปีนขึ้นไปได้สูงแค่ไหน”
แทนที่จะเป็น “พวกเจ้าสามารถปีนขึ้นไปได้รึไม่ ”.
กล่าวอีกนัยหนึ่ง
เสี่ยวเต๋าจื่อยังคงเชื่อว่า ถึงแม้ศักยภาพและความแข็งแกร่งของหลินหมิงกับเขี้ยวมังกรจะยอดเยี่ยมมาก
แต่พวกเขายังคงไม่อาจปีนถึงชั้นบนสุดได้ !.
ถึงแม้ว่าแท่นผนึกเทวะจะเป็นเพียงของเลียนแบบแท่นผนึกเทวะที่แท้จริง
แต่มันถูกหลอมและขัดเกลาโดยราชันสวรรค์เอกอนันต์ อีกทั้งมันยังเป็นอาวุธนักบุญขั้นสุดที่มีจิตวิญญาณอีกด้วย
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะกล่าวแต่มันไม่ง่ายที่จะทำในการปีนขึ้นไปชั้นบนสุด !?
“ในที่สุดมันก็เริ่มแล้ว!”
“นี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ! ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าคิดเสมอว่าการประลองครั้งนี้
มันจะต้องเป็นการต่อสู้ของยอดนักดาบประกายโลหิตกับโยวซูจิน
ข้าไม่เคยคิดเลยว่ามันจะกลับกลายมาเป็นการต่อสู้ของม้ามืดทั้งสองเช่นนี้
อีกทั้งมันยังเป็นการต่อสู้ที่น่าชมมากกว่าการต่อสู้ของยอดนักดาบประกายโลหิตกับโยวซูจินอีกด้วย
ข้าสงสัยยิ่งนักว่าทั้งสองคนนี้จะปีนขึ้นไปได้สูงขนาดไหน ?”
“ข้าว่าเขี้ยวมังกรน่าจะปีนขึ้นไปถึงชั้นสูงสุด
แต่หลินหมิงน่าจะไม่สามารถขึ้นไปถึงได้ แต่บนชั้น32เขาน่าจะขึ้นไปถึง !”
ในอดีตแทบจะกลายเป็นตำนาน
แท่นผนึกเทวะถูกใช้เป็นลานประลองมาก่อนและมันยังไม่มีใครสามารถปีนถึงชั้น32
ไม่ต้องกล่าวถึงชั้น33.
“เริ่ม! ไปได้!”
หลินหมิงกับเขี้ยวมังกรมองหน้ากัน
ทั้งสองรู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณต่อสู้ที่พุ่งสูงขึ้นของกันและกัน
ทั้งสองกระโดขึ้นบนหน้าผาแท่นผนึกเทวะชั้น32 แทบจะในเวลาเดียวกัน !
ผาแท่นผนึกเทวะตั้งตระหง่านแทบจะทะลุถึงสวรรค์
ความสูงของมันนับ1000,000ฟุต !
แรงกดดันบนชั้น32 มันรุนแรงมากกว่าชั้น31มาก
หลินหมิงรู้สึกได้ทันทีที่แตะสัมผัสผาแท่นผนึกเทวะ !.
“ช่างรุนแรงอะไรเช่นนี้
ถ้าปล่อยให้แรงกดดันจากกลิ่นอายราชันสวรรค์กดทับเช่นนี้
มันอาจะทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นได้ !”
BY NSN