วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ศิลาลึกลับกับวีรบุรุษ1246

 

Chapter 1246 – หลินหมิงปะทะโยวซูจิน

นักดาบม่วง ดูผิดปกติ?”

เขายังพยายามปีนขึ้นไป แต่ทำไมเขาเซไปมาเช่นนั้น!”

บนอัศจรรย์หลายคนสังเกตเห็นนักดาบม่วงมีอาการผิดไปจากปกติ เขาถูกทิ้งไว้เบื้องหลังจาก4คนด้านหน้าอย่างชัดเจน

 

ศิษย์พี่ ท่านทำได้ พยายามเข้า!”



ศิษย์พี่พยายามเข้า อย่ายอมแพ้ !”



เหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องจากดินแดนศักดิ์เดียวกันกับนักดาบม่วง ตะโกนให้กำลังใจนักดาบม่วงดังก้องทั่วอัศจรรย์ อย่างไรก็ตามนักดาบม่วงไม่ได้ยินเสียงของพวกเขาเลย

 


ณ ยามนี้เหงื่อปกคลุมเต็มใบหน้าและนัยน์ตาของเขา แม้แต่จิตสำนึกของเขายังพร่ามัวอีกด้วย.



เลือด...มือข้าเต็มไปด้วยเลือด ?ข้า...ข้ากำลังคลานไปในทะเลเลือด....จุดสิ้นสุด...ข้ามองไม่เห็นจุดสิ้นสุด...ทุกครั้งยามนักดาบม่วงก้าวไปข้างหน้า เขารู้สึกราวกับปีนขึ้นไปบนภูเขาดาบ ฝ่ามือและขาของเขาราวกับถูกแทงอยู่ตลอดเวลา.



ความเหนื่อยล้าของเขามันถึงขีดจำกัดแล้ว เขารู้สึกราวกับน้ำหนักตัวเขาเพิ่มขึ้นนับ10,000จิ้น อีกทั้งความเจ็บปวดที่ได้รับมันเสมือนจริงราวกับจะตายได้ในทุกวินาที...

 


ด้วยจิตสำนึกที่จางหายไปในที่สุด เขาพยายามและทำเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่ในยามนี้เขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อีกแล้ว

 

ปัง !

 


ยอดนักดาบม่วงสูญเสียสติในเวลาไม่นานนัก เมื่อพลังลมปราณในร่างกายหยุดลง เขาไม่สามารถทนต่อแรงกดดันอันหนักหน่วงจากแท่นผนึกเทวะระหว่างปีนขึ้นชั้นที่31ได้ ถึงแม้ร่างกายของนักสู้จะเต็มไปด้วยระบบที่ซับซ้อนภายในมากมาย แต่เมื่อไร้การป้องกันจากเกราะลมปราณร่างกายของพวกเขาจึงไม่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปมากนัก ดังนั้นผลกระทบเช่นไร ย่อมเห็นได้อย่างชัดเจนชัดเจน



พร้อมกับเลือดที่พุ่งออกจากปากราวกับสายฝน ยอดนักดาบม่วงหล่นลงมาในที่สุด.

 

 

กลิ่นอายจากร่างกายของเขาเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ พยุงร่างของเขาก่อนที่ล่วงลงชั้นที่30 เขาพ่ายแพ้แล้ว!

 



ยอดนักดาบม่วงแพ้แล้ว เขาเป็นคนที่3ที่สามารถขึ้นไปบนชั้น22ได้ แต่เขากลับไม่อาจปีนขึ้นชั้น31ได้!”

สวรรค์ ! นี่มันยากเกินไปแล้ว ! แล้วมันจะมีใครขึ้นไปถึงชั้น32หรือชั้น33ได้กัน!?”



ในตอนแรกหลายคนยังคิดว่า นักดาบม่วงอาจจะมีความแข็งแกร่งด้อยกว่าโยวซูจินเล็กน้อย ความแข็งแกร่งของเขาน่าจะใกล้เคียงหลินหมิงและเขี้ยวมังกร แต่ตอนนี้พวกเขากับตระหนักได้ถึงความเหลื่อมล้ำนั้นมากมายเพียงใด  

 


โอ้.! อีก4คนใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว !”



หลินหมิง เขี้ยวมังกร และ โยวซูจิน เป็นผู้นำ ยอดนักดาบประกายโลหิต ตามหลังพวกเขาเพียงเล็กน้อย สิ่งนี้มันสามารถบอกถึงความแตกต่างด้านจุดแข็งของพวกเขารึไม่?”

 



นั้นอาจจะไม่ใช่ความจริง การเปรียบเทียบความแข็งแกร่ง จุดอ่อนและ จุดแข็งมันต้องเกิดจากการต่อสู้ แท่นผนึกเทวะมันเพียงทดสอบความสามารถรอบด้าน มันทดสอบความแข็งแกร่งทางร่างกาย จิตวิญญาณ และแก่นแท้.”

 



ดูเหมือนพวกเขาทั้งสี่จะสามารถปีนขึ้นชั้นที่31ได้ หลังจากนี้พวกเขาต้องต่อสู้กัน !”



ช่างน่ารอคอยยิ่งนัก ไม่ว่าใครจะต่อสู้กับใคร มันต้องสุดยอดเป็นแน่ !!”

 



เจ้า2คนนั้น!... โยวซูจินจ้องมองไปที่หลินหมิงและเขี้ยวมังกร ด้วยสายตาไม่น่าเชื่อทำไมพวกเขาทั้ง2ปีนขึ้นไปได้เร็วขนาดนั้น พวกเขาทำได้ยังไง ข้าต้องใช้ความแข็งแกร่งมากขนาดไหนกว่าจะตามได้ทัน?” โยวซูจินลอบกล่าวในใจ



มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมีการป้องกันการโจมตีผ่านภาพมายาทั้งหลายเหล่านี้ ใช่ไหม?”



เมื่อคิดถึงเความเป็นไปได้เหล่านี้ โยวซูจินรู้สึกเย็นแผ่นหลังวาบ แท่นผนึกเทวะมันไม่เพียงแค่ประเมินความแข็งแกร่งจากการต่อสู้เท่านั้น มันยังรวมถึงการทดสอบพรสวรรค์ ร่างกาย จิตวิญญาณรวมถึงแก่นแท้อีกด้วย หลายอย่างสำหรับเขายังนับว่ายากยิ่งนัก !



โยวซูจินค่อนข้างมั่นใจในความแข็งแกร่งและแก่นแท้ที่ลึกซึ้งของตัวเอง อีกทั้งเขายังมั่นใจว่าเขานั้นแข็งแกร่งกว่าหลินหมิงและเขี้ยวมังกร หรือมันจะเป็นพรสวรรค์หรือศักยภาพโดยรวมเขานั้นด้อยกว่าทั้ง2คน ถึงกระนั้นภาพรวมมันก็น่าเท่าเทียมกันและรักษาระดับความเร็วได้พอๆกันสิ ?



แก้นแท้และศักยภาพของข้า มันด้อยกว่าพวกเขาทั้งสองจริงรึ?”



โยวซูจินพบว่ามันยากที่จะเชื่อ หากมันเปลี่ยนเป็นเหล่าบุตรหลานราชันสวรรค์ มันยังยอมรับได้บ้าง พวกเขาเหล่านั้นอุดมไปด้วยทรัพยากร ทักษะและมรดกสืบทอดจากราชันสวรรค์

 


แต่สำหรับเหล่าผู้เข้าร่วมที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิระดับต่ำ ถึงแม้พวกเขาจะดูเหมือนม้ามืดค่อยๆโดดเด่นขึ้นมาจากผู้เข้าร่วมอื่นๆนับพันล้านคน โยวซูจินยังไม่อาจยอมรับได้ว่าคนเหล่านี้ทัดเทียมกับเขา!

 



ต้องทราบว่าในช่วงชีวิตเกือบ40ปีของโยวซูจิน เขานั้นได้ใช้ทรัพยากรไปจำนวนมากมายยิ่งนัก เมื่อรวบรวมทรัพยากรทั้งหมดที่เขาใช้ไป มูลค่าของมันไม่อาจวัดได้ด้วยหินตะวันม่วง แต่มันถูกนับด้วยผลึกหยกเก้าดวงตะวัน

 


ผลึกหยกเก้าดวงตะวันมันถูกกลั่นโดยครึ่งก้าวราชันสวรรค์โดยการรวบรวมดวงตะวันทั้งเก้าชนิดหลอมกลั่นออกมาจนได้ผลึกหยกเก้าดวงตะวัน ผนึกหยกเก้าดวงตะวัน1ชิ้นเทียบเท่าผลึกหยกตะวันม่วง100ล้านชิ้น หรือพันล้านหินตะวันม่วง  



โย่วซูจินใช้ทรัพยากรไปมากมายและเขายังคงบ่มเพาะทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดอีกด้วย ถึงอย่างนั้นเขานั้นกับไม่ได้ดูเก่งกาจกว่าทั้ง2คนด้านหน้ามากนัก แล้วโย่วซูจินจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร? นี่ไม่เท่ากับว่าทรัพยากรที่เขาใช้ไปมันสูญเปล่าหรอกรึ ? มันให้ความรู้สึกราวกับทรัพยากรดังกล่าวมันถูกใช้กับสุนัข

 

มันเป็นไปไม่ได้ ! พวกเขาไม่ได้เก่งกาจมากกว่าข้า ข้าไม่เชื่อ!? มันต้องเป็นเพราะพวกเขาใช้วิธีการบางอย่างเพื่อที่จะต้านทานแรงกดดันวิญญาณและภาพมายาเหล่านี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงก้าวขึ้นไปได้มากกว่าข้า....

โยวซูจินคาดเดา อันที่จริงการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง.



หลินหมิงกับเขี้ยวมังกร ทั้งสองมีความสามารถต้านทานแรงกดดันวิญญาณอย่างมาก คนหนึ่งบ่มเพาะทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดด้านวิญญาณ และอีกคนหนึ่งมีร่างกายผันแปรพิเศษ

 


1ชั่วโมงต่อมา เขี้ยวมังกรเป็นคนแรกที่ปีนขึ้นแท่นผนึกเทวะไปถึงชั้น31



และหลังจากผ่านไป20ลมหายใจ โยวซูจิน และ หลินหมิง ปีนขึ้นมาถึงได้ในที่สุด พวกเขาทั้งสองแทบจะขึ้นมาถึงพร้อมกัน



ในยามนี้ เขี้ยวมังกรดูเหมือนจะฟื้นกำลังกลับมาเป็นปกติแล้ว เพียงแต่ใบหน้าของเขายังคงดูซีดเซียวกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย เขายังคงดูบอบบางเช่นเดิม มันเป็นการยากที่จะจินตนาการถึงความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัว ภายใต้ร่างกายบอบบางเช่นนี้

 


พวกเขาทั้ง2คนดูเหมือนจะไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งไปมากนัก พวกเขาต้องมีทักษะพิเศษบางอย่างที่ใช้ต้านทานแรงกดดันวิญญาณได้ เมื่อโยวซูจินเห็นหลินหมิงกับเขี้ยวมังกรชัดๆ เขาเริ่มมั่นใจในการคาดเดาของเขามากขึ้น ถ้ามันเป็นดังที่ข้าคาดเดา ข้าแค่ใช้ความแข็งแกร่งทั้ง­หมดของข้าเอาชนะพวกเขา­  !”

 



หลังจากผ่านไปอีก4ชั่วโมง ยอดนักดาบประกายโลหิต ปีนขึ้นมาถึงชั้น31ได้ในที่สุด สภาพของเขาแทบจะคลานขึ้นมามันช่างดูยากลำบากเป็นอย่างมาก .

 



พวกเขาทั้ง4ปีนขึ้นมาถึงชั้นที่31ได้สำเร็จในที่สุด แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่านอกจากพวกเขาทั้ง4แล้ว มันคงไม่มีใครปีนขึ้นมาถึงชั้นนี้ได้อีก !

 


อีกไม่นาน การต่อสู้อันดุเดือดและรุนแรงจะปมุในเร็วๆนี้ !

 

 

นี่มันออกจะน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว พวกเขาทั้ง4นับได้ว่าเป็นผู้สุดยอดที่สุดในกลุ่มผู้เข้าร่วม แล้วใครจะสู้กับใครล่ะ ?”

 



ข้ารู้สึกว่า ยอดนักดาบประกายโลหิตแข็งแกร่งน้อยกว่าผู้อื่น หลินหลิงกับเขี้ยวมังกรน่าจะแข็งแกร่งพอๆกัน ส่วนโยวซูจินน่าจะแข็งแกร่งมากที่สุด!”

 



จากผลงานตั้งแต่ชั้นที่21 ยอดนักดาบประกายโลหิตค่อนข้างอ่อนด้วยกว่าเล็กน้อยหากเทียบกับทั้ง3คน ในสายตาของผู้ชมพวกเขาทั้ง3ดูแกร่งกว่ายอดนักดาบประกายโลหิตอีกทั้งหากเทียบด้านพรสวรรค์และศักยภาพ หลินหมิงกับเขี้ยวมังกรดูจะได้เปรียบโยวซูจินมากกว่าเล็กน้อยเช่นกัน ถึงกระนั้นหากเกิดการต่อสู้จริง โยวซูจินย่อมดูได้เปรียบกว่า เนื่องจากเขานั้นอยู่ในขั้นเทพสมุรช่วงปลาย ดังนั้นแก่นแท้ ลมปราณแท้ ของเขาย่อมดูหนาแน่นและลึกซึ้งมากกว่า

 


หลินหมิงผู้นี้ค่อนข้างแปลกประหลาดจริงๆ เขานั้นอยู่เพียงขั้นเทพสมุทรช่วงต้นขั้นสุดเพียงเท่านั้น แต่เขากับแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ ข้าไม่รู้จริงๆว่าเขาบ่มเพาะมาเช่นไร?.”

…………..

ณ เวลานี้ ห่างจากแท่นผนึกเทวะออกไปหลาย100ไมล์ เรือวิญญาณลำ1กำลังลอยตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

ภายในเรือวิญญาณ ปรากฏแท่นบัลลังก์หินสีดำขนาดใหญ่ บนบัลลังก์มีชายร่างสูงใหญ่สวมใส่ชุดคลุมสีดำนั่งอยู่

 

สายตาของเขาเพ่งมองตรงไปยังแท่นผนึกเทวะ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ห่างออกมาหลายร้อยไมล์ แต่เรื่องราวและทุกเหตุการณ์บนแท่นผนึกเทวะกลับไม่อาจหลุดรอดพ้นจากสายตาเขาได้   .

 



ในสี่คน มี2คนลงทะเบียนเข้าร่วมการต่อสู้อาณาจักรสวรรค์ครั้งแรก ในนามโลกนักสู้ที่แท้จริงของข้า ถึงกระนั้นพวกเขาทั้ง2กลับไม่ได้มาจากโลกนักสู้ที่แท้จริงโดยตรง อีกทั้งพวกเขายังไม่ใช่ศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธิในโลกแท้จริงอีกด้วย คนหนึ่งเป้นนักสู้สัญจร เพิ่งปรากฏตัวออกมาไม่นาน อาจารย์ของเขายังคงเป็นปริศนา ส่วนอีกคนเป็นศิษย์จากเผ่าฟินิกซ์โบราณจากพิภพแสงสีชาด อีกทั้งทั้ง2กลับสามารถปีนขึ้นมาถึงชั้นที่31ได้ แต่บรรดาศิษย์ข้าซึ่งได้รับการฝึกฝนจากข้า ได้รับทรัพยากรจำนวนมากจากข้า ได้เข้าไปในตำหนักพิภพของข้าเพื่อฝึกฝน อีกทั้งยังได้รับทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดที่ไม่สมบูรณ์จากข้า ทั้งหมดทั้งมวลที่ข้าพอจะทำได้ ข้าทำให้ไปหมดแล้ว แต่พวกเจ้ากับถูกกำจัดออกเพียงแค่ชั้นที่27 ผลที่ได้รับกลับเป็นเพียงพวกขยะ !”



ชายผู้นี้ก็คือ ราชันพิภพโลกนักสู้ที่แท้จริง เขานับเป็นราชันผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ในความเป็นจริงโลกนักสู้ที่แท้จริงนั้นนับเป็นโลกอันดับที่2 ดังนั้นโดยปกติแล้วผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่จึงไม่อาจปีนขึ้นไปถึงชั้นที่30ได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันกลับมาถึง4คนที่ปีนขึ้นไปถึงชั้น31ได้ ถึงแม้ว่าจะมี2คนลงทะเบียนในนามโลกนักสู้ที่แท้จริง แต่พวกเขากับไม่ใช่ศิษย์หลักจากโลกนักสู้แท้จริง นี่นับเป็นเรื่องที่น่าขายหน้ามาก

 


ในขณะที่ชายชุดดำกำลังกล่าว อดีตผู้เข้าร่วมด้านหน้าเขากำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น พวกเขาตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว มันไม่มีแม้แต่ผู้เดียวกล้ากล่าวคำใดใดออกมา

 


.เฮ้อ. ชายชุดดำถอนหายใจก่อนจะกล่าวต่อว่า เวลากว่าล้านปีที่ผ่านมา ข้าใช้ทรัพยากรไปจำนวนมากมายมหาศาลแทบจะนับไม่ไหว แต่หากเวลาผ่านไปอีกล้านปีแล้ว ข้าในฐานะราชั้นพิภพจากโลกนักสู้ที่แท้จริงยังคงไม่สามารถบ่มเพาะราชันพิภพขึ้นมาได้. มันคงต้องปล่อยไปตามโชคชะตาแล้ว....ข้าคงไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว..?. 

 


ชายชุดดำส่ายศีรษะ เขาไม่ได้กล่าวสิ่งใดเพิ่ม เขานั้นนับได้ว่าเป็นเสาหลักเพียงผู้เดียวที่ค้ำจุ้นโลกนักสู้ที่แท้จริงทั้งหมด แต่เขาเองก้ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไปเช่นกัน



ในเวลาเดียวกันบนแท่นผนึกเทวะชั้นที่31 การต่อสู้ของทั้ง4คนยังคงไม่เกิดขึ้น ในช่วงเวลานี้พวกเขาทั้ง4กำลังฟื้นฟูความแข็งแกร่ง ในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนี้ นับเป็นประโยชน์ต่อยอดนักดาบประกายโลหิตมาก เพราะเขานั้นใช้ความแข็งแกร่งไปมากที่สุดแรงกดดันจากกลิ่นอายราชันสวรรค์ชั้นที่31นั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่ายอดนักดาบประกายโลหิตจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เขายังรู้สึกว่าเขานั้นสามารถใช้ความแข้งแกร่งออกมาได้เพียงแค่40%เท่านั้น

เจ้าพวกเวรเหล่านี้ มันปีนขึ้นมาได้เร็วกว่าข้า มันเป็นเพราะแรงกดดันบ้านี่ ทำให้ข้าไม่สามารถใช้ความสามารถที่แท้จริงออกมาได้ ถึงยังงั้นในการต่อสู้จริง ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะอ่อนด้อยกว่าเจ้าพวกเทพสมุทรขั้นต้นกับเทพสมุทรขั้นกลาง!”

 

 

ในความเป็นจริงเหล่าราชันพิภพแต่ละโลก จงใจส่งเหล่าศิษย์หลักเข้าร่วมต่อสู้ในการต่อสู้ครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์ และเพื่อรับประกันว่าพวกเขาเหล่านี้จะสามารถได้อันดับดีๆ พวกเขาส่วนใหญ่จะส่งตัวตนระดับเทพสมุทรช่วงปลายเข้าร่วมมากกว่า นั้นเป็นเพราะมันมีโอกาสชนะมากกว่า.

 



ดังเช่น ซือหยูอวิ้น  หวูกุ๋ยอวิ้น โยวซูจินและยอดนักดาบประกายโลหิต พวกเขาเหล่านี้ล้วนอยู่ในระดับเทพสมุทรขั้นปลายทั้งสิ้น

 



และหากผู้เข้าร่วมคนใดระดับการบ่มเพาะไม่ถึงเทพสมุทรช่วงปลาย มันย่อมง่ายต่อการสูญเสียครั้งใหญ่ มันจะมีก็แต่ดินแดนเล็กๆส่วนมากที่จะส่งผู้เข้าร่วมระดับเทพสมุทรขั้นต้นหรือเทพสมุทรขั้นกลาง และพวกเขาส่วนใหญ่มักกลายเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า อีกทั้งมันยังคงไม่ได้รับผลตอบแทนดีดีอะไรอีกด้วย.

 



เลือกคู่ต่อสู้ของพวกเจ้าซะ!”เสี่ยวเต๋าจื่อกล่าว ใบหน้าของเขายังคงเย็นชาราวกับน้ำแข้ง10000ปี ไม่ว่าผู้เข้าร่วมบนแท่นผนึกเทวะจะน่าทึ่งมากเพียงใด เขายังคงวางท่าเฉยเมย ราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเรื่องธรรมชาติ ในความคิดของเขา ชั้นที่31 ยังไม่นับเป็นอันใดได้ !

ขณะเสี่ยวเต๋าจื่อกล่าวคำเหล่านี้ออกไป ผู้คนหลายล้านบนอัศจรรย์ต่างกลั้นลมหายใจ

 

เปรี้ยะ เปรี้ยะ !

 

หลังจากคำกล่าวของเสี่ยวเต๋าจือจบ บนแท่นผนึกเทวะ หลินหลิง เขี้ยวมังกร โยวซูจินและยอดนักดาบประกายโลหิต ต่างเริ่มชำเลืองมองหน้ากัน เจตจำนงในการต่อสู้พุ่งสูงและปะทะกันในพริบตา เพียงแค่เจตจำนงในการต่อสู้ของพวกเขาทั้ง4ปะทะกัน มันยังทำให้บรรยากาศรอบๆตัวพวกเขาแทบจะลุกไหม้ในเวลาเดียวกัน

 



พวกเจ้าทั้ง2มีทักษะลึกลับที่ดี และนั้นมันทำให้พวกเจ้าทั้ง2ต้านทานแรงกดดันวิญญาณได้ ฮึ..พวกเจ้าคงไม่คิดถึงว่าทักษะต่ำๆเช่นนั้นมันจะช่วยให้พวกเจ้าคลานขึ้นมาถึงชั้นนี้ได้กระมัง ?...ก็แค่ทักษะต่ำๆเท่านั้น..บนชั้นนี้พวกเจ้าคงไม่อาจใช้ทักษะต่ำๆได้อีกต่อไปโยวซูจินเป็นคนแรกที่กล่าวออกมา

 



โอ้? เจ้ากำลังจะบอกอะไร?”.หลินหมิงขมวดคิ้วก่อนจะกล่าวถามออกมา

 



ถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะไม่ยอมรับ แต่มันก็ไม่อาจหลบพ้นไปจากสายตาข้าได้ นับจากนี้ต่อไปมันจะเป็นการต่อสู้ที่ต้องใช้ความแข็งแกร่งที่แท้จริง ความแข็งแกร่งใดใดที่พวกเจ้าเก็บซ่อนไว้มันสมควรเปิดเผยออกมาได้แล้ว พวกเจ้าจะเลือกเองหรือให้ข้าเลือกก่อน?”.โยวซูจินกล่าว เขาแสดงออกอย่างมั่นใจเป็นอย่างมาก ราวกับตัวเขาเป็นนักสู้ระดับปรมาจารย์



เขี้ยวมังกรเงียบในขณะที่หลินหมิงยิ้มและหัวเราะก่อนจะกล่าวว่า ในเมื่อให้ข้าเลือกก่อน ดังนั้นข้าย่อมตอบสนอง ข้าเลือกเจ้า!!”



หลินหมิงชี้หอกไปทางโยวซูจิน !



ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ทำให้เกิดความโกลาหลในทันที !



ในบรรดาผู้เข้าร่วมที่เหลืออยู่ทั้ง4คน ไม่ว่าจะมองยังไงยอดนักดาบประกายโลหิต ดูอ่อนด้อยกว่าผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหากมีโอกาสได้เลือกก่อนยอดนักดาบประกายโลหิตย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หลินหมิงกับเลือกโยวซูจินที่แข็งแกร่งที่สุด !



หลินหมิงผู้นี้บ้าไปแล้ว !”



เชี่ย..อะไรว่ะเนี่ย!”



เมื่อโยวซูจินเห็นหอกฟินิกซ์ชี้ตรงมาที่เขา เจตนาสังหารฉายชัดในดวงตาเขาในทันที เจ้าช่างกล้า!”



                                                                                                                             BY NSN

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Facebook