วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ศิลาลึกลับกับวีระบุรุษ์ 1249

 

Chapter 1249 – โยวซูจิน แพ้

 

 

ฮ่า ฮ่า  ฮ่า ศักยภาพข้าด้อยกว่า ความแข็งแกร่งของข้ายังด้อยกว่าอีกด้วย ?”! โยวซูจินหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อได้ยินคำกล่าวของหลินหมิง


ข้าไม่ได้กล่าวบอกว่าเจ้านั้นมีศักยภาพดีทีสุดในดินแดนศักดิ์สิทธินับร้อยแห่ง เจ้ามันก็แค่มีศักยภาพที่พอพอกับมาตราฐานสูงสุดเท่านั้น ! อะไรทำให้เจ้าคิดว่าไม่มีใครสามารถเทียบกับเจ้าได้รึ ? ที่เจ้ากล่าวว่าศักยภาพและความแข็งแกร่งของข้าอ่อนด้อย นี่เจ้าต้องการจะสอนข้ารึ? นี่เจ้าคงไม่คิดว่าแค่ข้าให้บันไดลง เจ้าก็สามารถปีนขึ้นไปได้ง่ายๆซินะ !”


โยวซูจินกล่าวออกมา ในขณะที่กล่าวเขาผสานลมปราณเสียงเข้าไปด้วย มันทำให้เสียงของเขาดังก้องกังวานไปทั่วลานผนึกเทวะ!


อะไร?”


วาจาเขื่องโขนัก!”


มันคิดว่ามันเป็นใคร ถึงกล้ากล่าวเช่นนี้!”


นี่มันจะหยามหน้ากันเกินไปแล้ว!”


เหล่าศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬ สับสนวุ่นวายในทันทีหลังจากได้ยิน หน้าตาของพวกเขาล้วนมืดคล้ำ ปากสบถออกไปทั่ว หลายคนยังลุกขึ้นยืนตะโกนโหวกเหวกแล้วกับนักเลงหัวไม้ .


เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ ช่างหยิ่งยโสโดยแท้ !”


ศิษย์พี่ซูจิน จะต้องทุบตีมันจนมารดามันจำไม่ได้ !”


ทุบตีมัน ! โยมมันลงมาจากแท่นผนึกเทวะ ! ตีมันให้เละเหมือนเยื้อกระดาษ !”


ในดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬสถานะโดยรวมค่อนข้างพิเศษ ตัวตนของโยวซุจินก็เช่นกัน ในการประลองการต่อสู้ครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์ ดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬ ส่งผู้เข้าร่วม10,000 คน  ซึ่งมันมีศิษย์น้องของโยวซูจินอยู่ประมาณ8000-9000ตน .


การต่อสู้ครั้งแรกของอาณาสวรรค์มันเป็นการเข้าร่วมของนักสู้ทั่วสารทิศ มันจึงไม่แปลกที่การต่อสู้เช่นนี้จะทำให้เหล่าผู้เข้าร่วมและเหล่าผู้ชมคลั่งไคล้ นี่เป็นโลกที่ตัดสินกันด้วยความแข็งแกร่ง แม้แต่ในโลกมนุษย์หากมีการแข่งขันฟุตบอล เมื่อบรรดาFC ลุกขึ้น มันยังทำให้เกิดการเหยียบกันจนตายก็มีให้เห็นเช่นกัน.


เหล่าศิษย์นภาทมิฬราว 8000-9000คน ต่างถูกกระตุ้นอารมณ์โกรธจนแทบเดือดเป็นฟอง แม้แต่ศิษย์จากพิภพปีศาจรุ่งอรุณยังคงเดือดดาลเช่นกัน เดิมทีเหล่าศิษย์หลักจากพิภพปีศาจรุ่งอรุณเองก็เข้าร่วมในรอบรองชนะเลิศเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาทั้งหมดถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว ยังคงเหลือเพียงโยวซูจินที่นับได้ว่าเป็นตัวแทนจากพิภพรุ่งอรุณปีศาจเช่นกัน เนื่องด้วยดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬตั้งอยู่บนพิภพรุ่งอรุณปีศาจ อีกทั้งยังมีความใกล้ชิดกับพิภพรุ่งอรุณปีศาจเป็นพิเศษอีกด้วย ดังนั้นมันไม่แปลกหากพวกเขาจะให้กำลังใจและเชียร์โยวซูจิน


ฟุบ !


ครืนน!


เสี่ยวเต๋าจือลืมตาและขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปและปรากฏอีกครั้งเหนืออัศจรรย์ผู้ชม โดยไม่มีการกล่าวเตือนใดใด แรงกดดันจากกลิ่นอายอันแข็งแกร่ง กดทับเหล่าผู้บ้าคลั่งบนอัศจรรย์ในทันที ด้วยแรงกดดันอันหนักหน่วงเหล่าผู้บ้าคลั่งสงบลงในทันที มิฉะนั้นหากปล่อยให้เรื่องปลายปลาย เมื่อเหล่าผู้ชมนับพันล้าน อีกทั้งพวกเขายังนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะในยุคของพวกเขาเช่นกัน เมื่อพวกเขาก่อความวุ่นวายขึ้นมา นับประสาอะไรกับเสี่ยวเต๋าจื่อเพียงผู้เดียว ต่อให้ราชันพิภพเข้าร่วมปราบปราม ยังคงไม่อาจปราบปรามได้หมด ยกเว้นราชันสวรรค์ลงมือเท่านั้น   .


เช่นเดียวกันกับเหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์โบราณ เมื่อพวกเขาเห็นศิษย์นภาทมิฬตะโกนอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาเองยังคงตะโกนเชียร์หลินหมิงดังลั่นเช่นกัน ถึงแม้พวกเขาจะมีเพียงหลายร้อยคน พวกยังพยายามตะโกนเสียงให้ดังมากที่สุด!


หลินหมิงต้องชนะ!”


ศิษย์พี่หลิน เอาชนะให้ได้!”


ศิษย์พี่ ไร้พ่าย!”


ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่ว่าหลินหลิงจะเอาชนะโยวซูจินได้หรือไม่ พวกเขายังคงไม่ยอมแสดงความอ่อนด้อยกว่าออกมาให้เห็น  !


และในความเป็นจริง ด้วยมันเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของดินแดนศักดิ์สิทธิของพวกเขา มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะได้รับผลกระทบกับบรรยากาศรอบรอบตัวพวกเขา ดังนั้นในยามนี้พวกเขาไม่ได้สนใจว่าหลินหมิงจะชนะหรือพ่ายแพ้ ตรงกันข้ามพวกเขากับกำลังพยายามจนถึงที่สุดเพื่อรักษาชื่อเสียงของดินแดนศักดิ์สิทธิที่พวกเขาอยู่ และ การแสงดให้เห็นว่าฝ่ายตนดูแข็งแกร่งกว่าจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นในยามนี้ !


โยวซูจินดูไม่ค่อยเต็มใจยอมรับว่าศักยภาพของเขาด้อยกว่าหลินหมิง แต่ความจริงมันยังปรากฏให้เห็นตรงหน้าเขา แต่เขาเองก็กล่าวได้ถูกอย่างหนึ่ง ความแข็งแกร่งของหลินหมิงในปัจจุบันยังคงขาดไปอยู่ และเขาคงเอาชนะโยวซูจินไม่ได้ แต่หากเวลาผ่านไปอีกปีหรือสองสามปี หลินหมิงน่าจะเหนือกว่า ในทั้งสี่คน หลินหมิงอายุน้อยที่สุด อนาคตของเขาในภายภาคหน้ามันย่อมไม่มีสิ้นสุดเช่นกัน !”


ฮ่า ฮ่า โยวซูจินไม่แพ้อย่างแน่นอน เขาแพ้ในด้านศักยภาพไปแล้ว หากเขาแพ้ด้านความแข็งแกร่งอีก เขาคงไม่อาจเงยหน้ามองระดับที่สูงกว่านี้ได้แน่ !”


ตามหลักแล้ว โยวซูจินควรเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะได้ เขาคงอับอายและไม่มีหน้ามองใครอย่างหยิ่งยโสได้อีก !


บนลานผนึกเทวะ โยวซูจิน เริ่มเดินเข้าหาหลินหมิง บางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ทุก3ก้าวของโยวซูจิน ขณะเดินไปด้านหน้า มันจะทิ้งเงาของเขาเอาไว้ ! เงานี้เสมือนตัวจริงของโยวซูจินไม่ผิดเพี้ยน เงาทั้งหมดยังถือดาบไว้ในมือเช่นกัน อีกทั้งกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างเงายังดูไม่อ่อนด้อยกว่าร่างจริงอีกด้วย นี่ไม่ใช่ภาพติดตาจากการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ในความเป็นจริง โยวซูจินก้าวเดินช้ามาก มันไม่ต่างอันใดกับการก้าวเดินของมนุษย์ทั่วไป ถึงกระนั้นเขายังคงทิ้งร่างเงาไว้ถึง3เงา ในยามนี้มันจึงดูเหมือนมีโยวซูจิน4คน !


ทักษะร่างแยก ?”


ไม่ !นี่มันคือ กฎ มิติ


กฎ มิติและ กฎ เวลา  ที่โยวซูจิน เข้าใจ นับได้ว่าอยู่ในระดับสูง และ เมื่อเข้าใจได้ในระดับ1 มันสามารถแสดงภาพสะท้อนในความว่างเปล่าได้ ! .


ร่างเงาสะท้อนเหล่านี้มันแตกต่างจากภาพลวงตา พวกมันสามารถโจมตีได้ ! อีกทั้งความแข็งแกร่งของมันยังมีความเข้าใจใน กฎ มิติ อีกด้วย ซึ่งความแข็งแกร่งดังกล่าวมันอาจะมีความแตกต่างกับร่างจริง ระหว่าง10เปอร์เซ็นต์ถึง100เปอร์เซ็นต์ !


และถ้าร่างเงาสามารถเข้าใจกฎมิติได้ถึง100เปอร์เซ็นต์ ร่างเงาดังกล่าวจะสามารถสืบทอดกฎ ทักษะต่อสู้ ประสบการณ์ต่อสู้ รวมถึงความทรงจำ ของร่างจริงได้อีกด้วย แต่นั้นมันยังเป็นขอบเขตที่เข้าถึงได้ยากถึงยากมากเช่นกัน .


ที่มากกว่านั้นก็คือ ร่างเงาเหล่านี้ไม่กลัวการโจมตีใดใดทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าการทำลายร่างเงาจะไม่นับเป็นเรื่องยากเกินไป แต่มันยังต้องใช้ลมปราณแท้จำนวนไม่น้อยเช่นกัน และที่สำคัญร่างเงาเหล่านี้สามารถเกิดใหม่และเปลี่ยนแปลงได้ตลอด !


"อืม!อันที่จริงร่างเงานี้มันคือการใช้กฎมิติอย่างหนึ่ง มันคือการหลอมรวมกฎมิติระดับ1ถึง4เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งมันยังมีขอบเขตที่ใกล้ถึงระดับ5รวมอยู่ด้วย นี่จึงทำให้เขาสามารถสร้างร่างเงาเหล่านี้ได้ !


หลินหมิงเองก็เป็นสัตว์ประหลาดอัจฉริยะ ซึ่งโยวซูจินเองก็เช่นกัน กฎมิติและเวลานับได้เป็นอันดับที่2จากบรรดากฎที่เข้าใจได้ยากที่สุด พวกเขายังดูเยาว์วัยมากแต่กลับเข้าถึงระดับเช่นนี้ได้ สิ่งนี้มันทำให้เหล่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนรู้สึกเหมือนใช้ชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์จริงๆ !”


บนแท่นผนึกเทวะ นี่เท่ากับหลินหลิงต้องต่อสู้กับทั้งสี่ !


ชิ้ง !


ทั้งสี่ร่างโจมตีพร้อมกันในทันที !

 

หิมะโปรย8000ไมล์ ! ”


ดาบสสี่เล่มฟันออกมาพร้อมกันในพริบตา ! บนท้องฟ้า เมฆเริ่มรวมตัวกันก่อนจะกลายเป็นหิมะตกลงมาบนพื้นปฐพี !

 

ในขณะเดียวกัน มันยังมีภาพภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาประกฎออกมาในเวลาเดียวกัน นี่โยวซูจินกำลังใช้ทักษะสังหารโดยกฎน้ำแข็งของเขาอีกด้วย ความสามารถในการผสานทั้งสองกฎเข้าด้วยกันมันช่างน่าชื่นชมอย่างแท้จริง!


ภาพหิมะตกตัดกับแสงดาวบนท้อง มันดูงดงามราวกับภาพวาด แต่ในความสวยงามมันยังมีกลิ่นอายอันน่ากลัวแฝงอยู่ด้วย เกล็ดหิมะแต่ละเกล็ดมันแฝงไว้ด้วยความเข้าใจในกฎมิติอย่างลึกซึ้ง หากเกร็ดหิมะเพียงแค่เกล็ดเดียวสัมผัสกับนักสู้ในขั้นทำลายชีวิต พวกเขาจะถูกแช่แข็งและตายในเวลาแทบจะทันที ด้วยเกล็ดหิมะนับล้านหรืออาจจะหลายพันล้านที่กำลังตกลงมา มันสามารถดับสิ่งมีชีวิตได้หลายพันไมล์ !


สำหรับโยวซูจิน ทักษะนี้คือทักษะสังหารขั้นสูงสุดของเขา เดิมทีเขาต้องการเก็บมันไว้ใช้ในรอบสุดท้ายของรอบรองชนะเลิศ แต่เขาถูกหลินหมิงบังคับให้เขาต้องใช้มันออกมาในยามนี้ .


 

เมื่อเผชิญกับการโจมตีของโยวซูจิน หลินหมิงชี้หอกของเขาลงพื้น พร้อมกับเปิดใช้ดอกบัวจักรพรรดิในทันที ดอกบัวจักรพรรดิด้านหลังหลินหมิงเริ่มเบ่งบานอย่างช้าๆ !.

 

ดอกบัวจักรพรรดิ เขตแดนแรกกำเนิด เปิด !

 

พลังอันแข็งแกร่งไร้ขอบเขตและโบราณ ปะทุขึ้นในทันที เมื่อเกล็ดหิมะล่วงลงยังเขตแดนแรกกำเนิด พวกมันเริ่มละลายหายไป !


การเปิดใช้เขตแดนแรกกำเนิดมันเป็นสิ่งที่หลินหมิงได้ปรึกษากับมู๋เชียนเสวียนไว้ก่อนแล้ว และมันเป็นการตัดสินใจก่อนการต่อสู้ครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์บนแท่นผนึกเทวะจะเริ่มอีกด้วย .


เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหล่าผู้เข้าร่วมอัจฉริยะนับไม่ถ้วน รวมถึงเหล่าบุตรหลานราชันสวรรค์ หลินหมิงไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องเปิดใช้เขตแดนแรกกำเนิด มิฉะนั้นเขาไม่มีทางจะเอาชนะเหล่าผู้เข้าร่วมชั้นยอดเหล่านี้ได้ นั้นเป็นเพราะระดับบ่มเพาะเขายังอยู่ที่ระดับเทพสมุทรขั้นสูงสุดชั้นต้น.


ถ้าเขาล้มเหลวในการต่อสู้ครั้งแรก เขาจะไม่ได้รับสิทธิในการเข้าถึงพระราชวังสวรรค์ เขานั้นมีความต้องการเป็นอย่างยิ่งในการศึกษา กฎ มายา จาก ราชันสวรรค์มายาเทวะ  .


หลังจากเขตแดนแรกกำเนิดถูกอำพรางโดนมู๋เชียนเสวียน แม้แต่ราชันพิภพยังไม่สามารถมองผ่านได้ โอกาศเดียวที่พวกเขาจะรู้ได้ก็คือ พวกเขาเคยเห็นราชันสวรรค์บรรพกาลเปิดใช้เขตแดนนี้ด้วยตัวเองในอดีต แต่ราชันสวรรค์คือตัวตนเช่นไร พวกเขานั้นคล้ายกับราชันสวรรค์เอกอนันต์หรือราชันสวรรค์มายาเทวะ ที่แม้ใครจะได้อันดับ1บนตราประทับสวรรค์จากการต่อสู้ครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์ พวกเขายังคงไม่อาจได้เจอกับราชันสวรรค์ได้ !


 แม้แต่ราชันพิภพหรือมหาราชันพิภพผู้ยิ่งใหญ่ยังไม่มีโอกาสพบกับตัวตนเช่นพวกเขาได้ง่ายๆเช่นกัน และนี่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นการต่อสู้หรือความแข็งแกร่งของราชันสวรรค์ได้เช่นกัน มีเพียงตัวตนราชันสวรรค์อย่างเช่นราชันสวรรค์มายาเทวะถึงจะสามารถล่วงรู้หรือแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาให้เห็นได้!


กล่าวอีกนัยหนึ่ง เว้นเสียแต่มีตัวตนระดับราชันสวรรค์หรือคล้ายกับราชันสวรรค์บรรพกาลเท่านั้นที่จะมองออก แม้แต่ศิษย์หลักของราชันพิภพเอกนันต์ยังไม่มีความสามารถมากพอที่จะจำเขตแดนก่อกำเนิดที่ถูกอำพรางโดยมู๋เชียนเสวียนได้.


บางทีมันอาจจะมีคนรู้เกี่ยวกับเขตแดนแรกกำเนิดก็เป็นได้ ลึกลึกแล้วหลินหมิงเชื่อว่าคนเหล่านี้น่าจะรู้เรื่องสงครามเมื่อ100,000ปีก่อน เมื่อราชันสวรรค์เปิดสงครามกับราชันสววรค์ทัณฑ์สายฟ้า มันเป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่และรุนแรงมากอย่างแน่นอน.


สงครามในครั้งนั้นมันเกี่ยวข้องกับราชันพิภพและผู้ปกครองศักดิ์สิทธิอีกนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะนับรวมเหล่าสัตวเทวะอีกด้วย และมันยังมีความเป็นไปได้ที่ราชันสวรรค์กับราชันทัณฑ์สายฟ้าจะพินาศลงไปด้วยกัน !


เรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ มันจะไม่มีใครรู้ได้ยังไง ?


อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาอาจะคาดเดาได้ว่าราชันสวรรค์บรรพกาลทิ้งมรดกสืบทอดไว้ที่ดินแดนนภาปีศาจอมตะ.


แต่พวกเขากับเมินเฉยต่อเรื่องทั้งหมด จะเห็นได้ว่าเรื่องนี้มันไม่ง่ายดายอย่างที่คิด.


กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนที่จำเขตแดนแรกกำเนิดได้ก็จะรู้เรื่องมรดกสืบทอดของราชันสวรรค์บรรพกาล ส่วนคนที่ไม่เคยเห็น พวกเขาย่อมไม่รู้อะไรเลย มันเลยทำให้เขตแดนแรกกำเนิดไม่นับเป็นอันใดได้ในสายตาพวกเขา.


ถอยกลับไป10,000ก้าว ถึงแม้ว่าจะมีบางคนในราชันพิภพรู้ถึงการคงอยู่ของเขตแดนแรกกำเนิดของราชันสวรรค์บรรพกาล แต่มันยังเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะขโมยมันไปจากหลินหมิง เพราะหลินหมิงไม่ได้รับสืบทอดโดยแผ่นหยกบันทึกทักษะ ถึงแม้พวกเขาจะใช้การควาญวิญญาณพวกเขายังคงไม่ได้รับอะไรอยู่ดี.


มันเป็นความจริงที่เขตแดนแรกกำเนิดอาจจะนำอันตรายมาสู่หลินหมิง แต่เขายังต้องเดิมพันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากเขาสามารถเปล่งประกายได้อย่างรุ่งโรจน์ในการต่อสู้ครั้งแรกของอาณาจักรสวรรค์ มันคงไม่มีใครต่อต้านเขาได้อีก.


ทรัพยากรบ่มเพาะจากพระราชวังสวรรค์ รวมถึงกฎ มายา นับเป็นโอกาสที่หลินหมิงไม่มีวันปล่อยผ่านไป!

 

หลังจากหลินหมิงเปิดใช้เขตแดนแรกกำเนิด เหล่าตัวตนราชันพิภพระดับสูงในพระราชวังสวรรค์ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหิมะนับ8,000ไมล์ หลังจากพวกมันล่วงหล่นลงเขตแดนประหลาดมันละลายตัวเองในเวลาแทบจะพริบตา!


อืม ? นี่คือ …”


มันเป็นความสามารถของเขตแดน เขตแดนนี้ทรงพลังมาก มันจะนับเป็นทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดได้หรือไม่ ?”


เหล่าราชันพิภพระดับสูงหลายคน มองเห็นความตกใจที่สะท้อนผ่านนัยน์ตาของกันและกัน.


มันควรจะเป็นความสามารถในทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุด ยิ่งกว่านั้นมันยังค่อนข้างสมบูรณ์ ....มันอาจจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณ 20เปอร์เซ็นต์-30เปอร์เซ็นต์ หลินหมิงผู้นี้นับได้ว่ามีโชคท้าทายสวรรค์อย่างมาก...มันเป็นไปไม่ได้ที่เผ่าฟินิกซ์โบราณจะมีทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดเช่นนี้ .”


นี่ก็สมเหตุสมผลเช่นกัน หากไม่ได้รับโชคดีหรือความบังเอิญโดยโชคชะตา เขาจะเติบโตมาถึงขั้นนี้และยืนอยู่บนแท่นผนึกเทวะชั้น31ได้อย่างไร ? ดูเหมือนเขี้ยวมังกรเองก็คงได้รับโชคที่ท้าทายสวรรค์เช่นกัน !”

 

เหล่าราชันพิภพชั้นสูงประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าหลินหมิงมีทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุด แต่พวกเขายังคาดเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นมรดกสืบทอดจากตัวตนยิ่งใหญ่บางคนในอดีต.


ในฐานะเหล่าตัวตนชั้นสูง ใครเล่าจะไม่มีทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุด ภายใต้ดินแดนศักดิ์สิทธิอันกว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ หากพวกเขาไม่มีทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดฉบับสมบูรณ์ อย่างน้อยพวกเขาย่อมมีส่วนหนึ่งที่ไม่สมบูรณ์ สำหรับบุตรหลานราชันสวรรค์ พวกเขาอย่างน้องต้องมีส่วนหนึ่งของทักษะศักดิ์สิทธิสูงสุดไม่สมบูรณ์อย่างแน่นอน !


อย่างไรก็ตาม ณ จุดศูนย์กลางพระราชวังสวรรค์ ชายคนหนึ่งนาม ราชันพิภพเอกไพศาล สีหน้าของเขาดูแปลกๆ ก่อนพึมพำว่า เขตแดนนี้...ดูเหมือน...


ราชันพิภพเอกไพศาล รู้สึกคลับคล้ายคลับคาเขตแดนดังกล่าว แต่มันยังมีบางอย่างคลุมเครือติดอยู่ในใจเขา แต่ก่อนที่เขาจะมีเวลาคิดถึงเรื่องนี้ต่อไป หลินหมิงเริ่มโจมตีโยวซูจินแล้ว !


 หยดโลหิตฟินิกซ็โบราณ เผาไหม้ !

 

ต้นกล้าเทพอสูร เปิด !


 พรึบ !.

 

 

ณ ช่วงเวลานี้ร่างกายทั้งหมดของหลินหมิงลุกไหม้ด้วยเปลวไฟสีแดงเข้ม ภายในส่วนลึกของหัวใจเปลวเพลิงสีม่วงปะทุขึ้นมาในทันที แม้แต่นัยน์ตาของเขายังดูราวกับกำลังลุกไหม้ !


หลินหมิงเผาผลาญหยดโลหิตฟินิกซ์โบราณทั้งหมด พร้อมกับเปิดใช้ต้นกล้าเทพอสูรจนถึงขีดสุด บนหอกฟินิกซ์โบราณแสงสีม่วงและแดงเริ่มส่องแสง !


สีม่วงคือไฟมายา สีแดงคือธาตุไฟแท้ !


 แสงไฟศักดิ์สิทธิทั้งสองผสานเข้าด้วยกันในพริบตา การโจมตีด้วยหอกนี้มันคือการโจมตีโดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากการประยุกต์ใช้กฎของธาตุไฟ !


โยวซูจิน เข้าถึงระดับสี่จากกฎมิติและกฎธาตุน้ำ และกฎทั้งสองยังเกือบจะก้าวข้ามไปยังธรณีประตูระดับห้าอีกด้วย ด้วยความสำเร็จระดับนี้ของเขายังคงได้รับความชื่นชมไม่รู้จบ .


แต่สำหรับหลินหมิงเขาได้ก้าวผ่านธรณีประตูกฎธาตุไฟเข้าสู่ระดับห้าแล้ว อีกทั้งเขายังเข้าถึงขอบเขตเปลวไฟมายาได้อีกด้วย !


กฎระดับห้านับเป็นระดับใหม่อย่างสมบูรณ์ การก้าวผ่านกับการแตะถึงธรณีประตูระดับห้า มันย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอยู่แล้ว และนี่คือการเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งของหลินหมิง หลังจากได้เข้าต่อสู้และกลืนกินพลังวิญญาณในดินแดนมายาศักดิ์สิทธิ !


กฎธาตุไฟระดับ5 = เปลวเพลิงมายาดับสูญ !”


พรึบ !


เปลวเพลิงทั้งหมดรวมถึงเปลวเพลิงรอบกายหลินหมิง ถ่ายเทลงในหอกฟินิกซ์โบราณในพริบตา !.

 

 

เปลวเพลิงม่วงแดงบิดเกลียวเข้าหากันเลี้ยวพันรอบหอกฟินิกซโบราณ ราวกับมังกรไฟสีม่วงแดงขนดเข้าหากัน ตัวหอกทะยานไปด้านหน้าในทันที เมื่อเผชิญหน้ากับโยวซูจิน หากเปรียบเทียบกับดาบแสงนับพันเล่ม เกล็ดหิมะนับไม่ถ้วน การโจมตีของหลินหมิงดูธรรมดามาก


ทันใดนั้นดอกบัวจักรพรรดิด้านหลังห่อหุ้มหลินหมิงในทันที พร้อมกับร่างหลินหมิงทะยานพุ่งไปด้านหน้าความเร็วของหลินหมิงเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด.ในพริบตา !

 

ปัง !

 

เกล็ดหิมะโดยรอบถูกฉีกกระชากในทันที !

 

 

 

 

ถึงกระนั้นภายใต้การควบคุมของโยวซูจิน เกล็ดหิมะโดยรอบรวมตัวเข้าด้วยกันในทันที ก่อนจะหมุนวนกลายเป็นพายุหิมะสีขาวขนาดใหญ่ กวาดผ่านตรงไปยังหลินหมิง !

 

วู้ว ว้ว !


เสียงสายลมกรีดร้องพร้อมกับความบิดเบี้ยวบนความว่างเปล่าโดยรอบพายุสีขาว ทุกสิ่งรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ ก้อนหิน ถูกบดขยี้ทำลายจนกลายเป็นฝุ่นผง.


ปัง ปัง ปัง !


แต่หลินหมิงยังคงไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ ทุกสิ่งที่ขวางหน้าถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง !


ด้วยเขตแดนแรกกำเนิด เขาได้ลบทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ไม่เว้นแม้แต่กฎมิติของโยวซูจิน !.


อีกทั้งด้วยความเข้าใจในกฎธาตุไฟระดับ5 เหลินหมิงยังยับยั้งเกล็ดหิมะ8000ไมล์ของโยวซูจินได้อย่างสมบูรณ์ !


เนื่องด้วยทั้งสองกฎ เมื่อเปรียบเทียบกฎธาตุน้ำระดับ4กับกฎธาตุไฟระดับ5 มันจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าใครเหนือกว่า !


 

ปัง !


หอกฟินิกซ์โบราณทะลวงผ่านดาบแสงนับพัน พุ่งตรงเข้าหาด้านหน้าของโยวซูจินในทันที !


ถึงแม้จะยังมีร่างเงาของโยวซูจินขวางอยู่ มันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เข้าร่วมทั่วไปจะแยกแยะออกได้ แต่สำหรับหลินหมิงผู้มีเขตแดนแรกกำเนิด สิ่งนี้ยังไม่นับเป็นอันใดได้ ถึงแม้ร่างเงาเหล่านี้จะยังคงไม่ดับสลายไปในทันทีแต่มันยังค่อยๆสลายไป และนี่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับหลินหมิง  !


หอกของหลินหมิงเล็งตรงไปยังหน้าอกร่างจริงของโยวซูจิน ในขณะที่โยวซินเต็มไปด้วยความตกตะลึง ! ในยามนี้สัญชาตณาณของโยวซูจินทำได้เพียงยกดาบกันหอกของหลินหมิง โดยอัตโนมัติ แต่เขาเพิ่งใช้ทักษะสังหารออกไป มันยังไม่มีเวลามากพอให้เขารวบรวมลมปราณแท้ แล้วเขาจะป้องกันการโจมตีของหลินหมิงได้อย่างไร ?


ปัง ! แควก !

 

หอกฟินินกซ์โบราณทำลายผ่านดาบแสงสุดท้ายกอ่นที่จะฉีกเกราะลมปราณออกในพริบตา !


อั่กก !


เกราะลมปราณของโยวซูจินแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับเปลวไฟมายาพุ่งเข้าสู่ร่างกายของโยวซิจินในทันที  ณ ช่วงเวลานี้ ภายในจิตใจของโยวซูจินเริ่มเติมเต็มไปด้วยความอิจฉาและความโกรธแค้น !


เกลียด !


ไม่ยินยอม !


อิจฉา !


เขาเกลียดความสามารถของหลินหมิง เขาอิจฉาความแข็งแกร่งของหลินหมิง เขาไม่เต็มใจยอมรับศักยภาพของหลินหมิงที่เหนือกว่า เขาแค้นเคืองที่ต้องพ่ายแพ้หลินหมิงท่ามกลางสายตาของทุกคน สภาพในปัจจุบันมันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากผู้ได้รับความอัปยศ !


ไฟแค้นและไฟริษยา นับเป็นส่วนหนึ่งของเปลวไฟมายาเช่นกัน ในยามที่หลินหมิงโจมตีโยวซูจิน แปลวไฟมายาภายในร่างกายโยวซูจินได้กระตุ้นความเคียดแค้นและความริษยาอิจฉาในจิตใจของโยวซูจินถึงขีดสุด ในเวลานี้ ความรู้สึกดังกล่าวมันแทบจะแผดเผาโยวซูจินให้มอดไหม้ในไม่ช้า  !


ดวงตาของโยวซูจินดงราวกับโลหิต ในขณะที่ร่างกายของเขาราวกับจะระเบิดได้ทุกเมื่อ !

 

ปัก !

 

เจ้าแพ้แล้ว !

 .

ภายใต้กฎการประลอง อีกทั้งยังอยู่ภายใต้สายตาของเสี่ยวเต๋าจื่อ มันเป็นไปไม่ได้ที่หลินหมิงจะสังหารโยวซูจิน เขาทำได้เพียงใช้ด้ามหอกกวาดผ่านไปบนร่างของโยวซูจิน !


 

อ็อก !


โยวซูจินถูกฟาดร่างกระเด็นหมุนคว้างขึ้นไปก่อนที่จะตกลงบนแท่นผนึกเทวะพร้อมกับเลือดสาดกระจาย !


โยวซูจินพ่าย !


หลินหมิงสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเก็บหอกฟินิกซ์โบราณ และเริ่มปรับลมปราณแท้ในทันที การเปิดใช้เขตแดนแรกกำเนิดพร้อมกับกฎธาตุไฟระดับห้า มันจำเป็นต้องใช้ลมปราณแท้ไปไม่น้อย .


ณ เวลาเดียวกัน บนแท่นผนึกเทวะกลับเต็มไปด้วยความเงียบ แม้แต่เสี่ยวเต๋าจื่อที่ดูเฉนเมย

และเข้าใจยาก ยังลืมตาเพ็งมองไปที่หลินหมิง!




                                                                                            BY NSN

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Facebook