วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ศิลาลึกลับกับวีรบุรุษ 1253

 

Chapter 1253 – ทำความเข้าใจ กฎ

 

เขี้ยวมังกร!”

เขี้ยวมังกร !”

หลินหมิง !”

หลินหมิง !”


ผู้คนนับพันล้านตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง ในเวลานี้ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครมาจากไหน ไม่มีระดับชั้นใดใดอีกต่อไป โดยเฉพาะเผ่าฟินิกซ์โบราณนอกจากตะโกนแล้วยังถึงขนาดเปล่งกลิ่นนอายสีแดงเข้มออกมา


 ผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิส่งเสียงเชียร์ ผู้คนจากพิภพนักสู้ที่แท้จริงโห่ร้อง แม้กระทั่งผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬยังส่งเสียงเชียร์

 

ฉากนี้มันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ทุกคนหวังว่าชายหนุ่มทั้งสองบนแท่นผนึกเทวะจะสร้างปาฏิหาริย์ ปาฏิหารย์ที่มันจะกลายเป็นความหวังของนักสู้ทุกคน !


โดยเฉพาะความสนใจส่วนใหญ่ของทุกคนจดจ่ออยู่กับเขี้ยวมังกร นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจากดินแดนศักดิ์สิทธิทั้งหมดของ100พิภพที่มารวมตัวกันบนดาวคำสาปจันทรา มันมีความเป็นไปได้อย่างมากที่เขาจะทิ้งตำนานไว้เบื้องหลังพระราชวังราชันสวรรค์ !.


ณ เวลานี้บนแท่นผนึกเทวะ หลินหมิงกับเขี้ยวมังกร ปีนขึ้นมาได้1ใน10ของชั้นที่31แล้ว นั้นคือ10,000ฟุต !


การประลองต่อสู้ครั้งแรกในพิภพนักสู้ที่แท้จริง เกิดขึ้นหลายครั้งโดยการใช้แท่นผนึกเทวะ มันยังไม่มีใครสามารถปีนขึ้นไปถึงชั้นที่32ได้แม้แต่คนเดียว นี่แสดงให้เห็นถึงความยากถึงยากมาก !

….

นี่นับว่าเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่อาจจะกลายเป็นตำนานบนดาวคำสาปจันทรา และสิ่งนี้มันยังไม่เคยปรากฏออกมาก่อนในช่วงเวลานับล้านปี ที่ผ่านมา !”


ในสนามแข่งขันที่เต็มไปด้วยผู้คนนับพันล้าน มันยังมีพื้นที่หวงห้ามที่จัดเตรียมไว้เฉพาะแขกบางกลุ่ม บริเวณนี้เป็นมิติย่อยแยกออกมา และ บรรดาผู้ที่นั่งรับชมอยู่ ณ ที่นี้ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีชีวิตมาอย่างยาวนาน และ แต่ละคนยังเป็นบุคคลสำคัญใน100พิภพอันยิ่งใหญ่อีกด้วย.


ในกลุ่มพวกเขา ส่วนใหญ่เป็นชนชั้นระดับผู้ปกครองสูงสุดและยังมีกึ่งราชันพิภพรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามมันไม่มีราชันพิภพที่แท้จริงแม้แต่คนเดียว .


ราชันพิภพโดยเฉพาะมหาราชันพิภพเช่นเทียนหมิงจื่อที่มีสถานะสูงส่ง เขาสามารถรวมตัวกันกับเหล่าตัวตนในระดับชั้นเดียวกันได้ที่พระราชวังสวรรค์และเฝ้ามองการต่อสู้ของเหล่าผู้เข้าร่วมผ่านกระจกคริสตัลขนาดใหญ่ใจกลางพระราชวังสวรรค์เป็นการส่วนตัว ในขณะที่เหล่าราชันพิภพทั่วไปเช่นราชันพิภพนักสู้ที่แท้จริง พวกเขาทำได้เพียงเฝ้าชมจากบนเรือจิตวิญญาณและนี่ยังเป็นสิทธิพิเศษสำหรับเหล่าราชันพิภพเท่านั้น ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้รับชมบนท้องนภา มิฉะนั้นนภาเหนือแท่นผนึกเทวะมันคงเต็มไปด้วยเหล่าผู้คนแล้ว


นอกเหนือจากราชันพิภพ เหล่าตัวตนชนชั้นกึ่งราชันพิภพและชนชั้นผู้ปกครองศักดิ์สิทธิสามารถนั่งรับชมในพื้นที่ส่วนตัวที่ถูกเตรียมไว้ให้เท่านั้น.


บุคคลเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เหย่อหยิ่ง และยังเป็นผู้ปกครองในอาณาเขตของตนด้วย แต่ตอนนี้ เมื่อพวกเขาเห็นเขี้ยวมังกรกับหลินหมิง พวกเขากับเต็มไปด้วยอารมณ์ลึกซึ้ง กระแสกาลเวลาชะล้างสิ่งเก่าและนำมาซึ่งสิ่งใหม่ คนรุ่นใหม่เหนือกว่าคนรุ่นเก่า ดังคำกล่าวคลื่นลูกหลังย่อมแรงกว่าคลื่นลูกหน้า ความสำเร็จในอนาคตของทั้งสอง มันยากที่จะจินตนาการถึงจริงๆ .


เหลือเชื่อ! สองคนนี้นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะไร้เปรียบในรุ่นของพวกเขาแล้ว ข้าอยากรู้ยิ่งนักว่าใครจะแข็งแกร่งมากกว่ากัน


อืม! เขี้ยวมังกรนั้นยอดเยี่ยม แต่หลินหมิงเองก็โดดเด่นเช่นกัน เพียงแค่เทพสมุทรช่วงต้นขั้นสุด เขากับสามารถใล่ตามเขี้ยวมังกรได้ไกลขนาดนี้ มันไม่ง่ายเลย


หลายคนคิดว่าหลินหมิงย่อมถูกเขี้ยวมังกรทิ้งไว้ข้างหลังอย่างช้าๆ แต่หลินหมิงกับปีนขึ้นไปถึง 10,000ฟุตโดยไม่มีสะดุดแม้แต่น้อย


…………….

วิ้ว วิ้ว วิ้ว


เสียงลมพัดโหมกระหน่ำ

.

เฮ เฮ เฮ


พร้อมกับเชียรเชียร์ดังกระหึ่ม

.

แท่นผนึกเทวะสูงนับ3.3ล้านฟุตตั้งตระหง่านสูงสุดในพิภพ เมื่อหลินหมิงกับเขี้ยวมังกรปีนขึ้นไป ร่างกายของพวกเขาดูราวกับมดตัวน้อยสองตัวกำลังไต่ขึ้นไปบนยอด มันดูธรรมดาและเรียบง่าย แต่ในความเป็นจริง ในอนาคต.......พวกเขาจะกลายเป็นเสาหลักที่รองรับอาณาจักรสวรรค์ทั้งหมดในพิภพเทวะ !

10,000 ฟุต

20,000 ฟุต

30,000 ฟุต


หลินหมิงปีนสูงขึ้นสูงขึ้นจนเกือบจะตามเขี้ยวมังกรทัน !


ยิ่งสูงแรงกดดันยิ่งมาก !


สูดดด....


แท่นผนึกเทวะนี้ช่างดูยิ่งใหญ่อลังการนัก ทุกร่องรอยบนแผ่นหินกับเต็มไปด้วย กฎ อันยิ่งใหญ่.”


หลินหมิงผ่อนลมหายใจ ทุกลมหายใจยาวและลึก เขาหายใจเข้าเหมือนอสรพิษ หายใจออกดั่งลูกศร แต่ละลมหายใจเท่ากับ100การหายใจปกติของมนุษย์สามัญ.


ที่มากกว่านั้น มนุษย์สามัญทั่วไปหายใจเอาอากาศเข้า แต่หลินหมิงกับหายใจเอาพลังงานจากสวรรค์และปฐพีเข้า !.


แรงกดดันดั่งน้ำตกโหมกระหน่ำ มันไม่ใช่เพียงแค่แรงกดดันจากกลิ่นอายราชันสวรรค์ แต่หลินหมิงกับรู้สึกว่า บริเวณโดยรอบตัวเขามันเต็มไปด้วย กฎ โกลาหล .


อำนาจจาก กฎ โกลาหล นี้มันดูไม่สม่ำเสมอไม่มีกฎตายตัว มันแตกต่างจาก กฏต่างๆที่หลินหมิงเคยเข้าใจ.


ถ้าหลินหมิงไม่ใช้ กฎ ที่เขาเข้าใจต้านทาน กฎ โกลาหล รอบๆตัว เขาคงถูก กฎ โกลาหลบดขยี้และผลักเขาตกลงมาแล้ว.


ทุกย่างก้าวมันเต็มไปด้วยความยากลำบาก.


หนึ่งก้าวเสมือนปีนหน้าผา หนึ่งก้าวเสมือนเหยียบลงไปในโคลน หนึ่งก้าวเสมือนตกลงไปในสายธารเชี่ยวกราด.


บางครั้งแรงโน้มถ่วงมหาศาลยังพุ่งมาหาเขา มันทำให้หลินหมิงรู้สึกราวกับแขนของเขาจะขาด ถ้าไม่ใช่หลินหมิงแต่เป็นนักสู้ทั่วไปที่ไม่มีร่างกายและแก่นแท้ลมปราณที่หนาแน่น คลื่นแรงโน้มถ่วงนี้คงผลักพวกเขาตกลงจากหน้าผาไปแล้ว


บางครั้ง พลังงานจาก กฎ โกลาหล ยังโจมตีจิตวิญญาณของหลินหมิงโดยตรง และพลังงานจาก กฎโกลาหลนี้มันยังมีความรุ่นแรงพอๆกับการโจมตีจิตวิญญาณจากเทพสมุทรขั้นปลายอีกด้วย ในยามปกติหลินหมิงย่อมหลีกเลี่ยงการโจมตีประเภทนี้ได้ แต่ในยามนี้ขณะที่เขายังปีนขึ้นไปชั้น32 นอกจากความแข็งแกร่งจำนวนมากที่เขาต้องใช้ไป หลินหมิงรู้สึกว่ามันยากที่จะต่อต้านการโจมตีนี้ .


ฮู..... !


หลินหมิงถอนหายใจยาว เขาปีนขึ้นไปได้เพียง30,000ฟุตเท่านั้น มันยังมีระยะทางอีก60,000ฟุตที่เขาต้องปีน!


ตามระยะทางนี้ หลินหมิงมั่นใจว่ามันจะไม่มีปัญหาใดที่จะปีนขึ้นไปยังชั้นที่32 แต่ชั้น32มันไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของหลินหมิง !


เขาต้องการจะปีนให้ถึงชั้น33 แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบันนี้ เขาคงทำได้แค่คลานไปยังชั้น33ในไม่กี่พันฟุตก่อนที่จะถูกผลักตกลงมา !


แท่นผนึกเทวะเป็นที่รู้จักในฐานะสนามทดสอบการต่อสู้ของพิภพนักสู้แท้จริง และยังเป็นที่สนามทดสอบคุณสมบัติขั้นสูงสุดของเหล่านักสู้อีกด้วย หลายปีที่ผ่านมาราชันสวรรค์เอกอนันต์ผู้หล่อหลอมแท่นผนึกเทวะขึ้นมา และ ใช้มันเป็นอาวุธนักบุญขั้นสุดที่มีจิตวิญญาณ ตลอดเวลาที่ผ่านมามันไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถปีนขึ้นไปถึงชั้นสูงสุด แน่นอนเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องหลอกลวงแต่อย่างใด


ที่มากกว่านั้น เหล่าศิษย์ราชันสวรรค์ที่เคยปีนแท่นผนึกเทวะมาก่อนในเวลานั้น พวกเขาล้วนอยู่ในระดับบ่มเพาะขั้นเทพสมุทรช่วงปลาย แต่หลินหมิงนั้นอยู่เพียงแค่ขั้นเทพสมุทรช่วงต้นขั้นสุด !.


สำหรับหลินหมิงเอง เขานั้นไม่ได้หวังว่าจะปีนขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดชั้น33 เขาเพียงแค่อยากปีนขึ้นไปให้ไกลที่สุด ขุดศักยภาพและผลักดันขีดจำกัดของตัวเองให้ถึงขีดสุด !


หลินหมิงหันไปมองเขี้ยวมังกร ในขณะที่เขี้ยวมังกรปีนอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก ทั้งคู่ปีนขึ้นไปด้วยความเร็วที่เท่ากัน.


 ยามนี้รูม่านตาของเขี้ยวมังเล็กลงราวกับจุดเข็ม ในขณะที่มีอักขระแปลกมากมายรอบๆตาดำ.


อักขระเหล่านั้น มัน…”


ความคิดของหลินหมิงสั่นคลอน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นอักขระเหล่านี้.


ถึงแม้ว่าหลินหมิงจะยังไม่เข้าใจความลึกลับเบื้องหลังอักขระเหล่านี้ แต่สิ่งที่เขาแน่ใจก็คือ เขี้ยวมังกรตระหนักถึง กฎ โกลาหลโดยรอบมากขึ้นเพราะอักขระรอบดวงตาดำเหล่านี้ ดังนั้นเขี้ยวมังกรจึงต้านทาน พลังงานจาก กฎ โกลาหลรอบๆตัวเขาน้อยกว่า พลังงานจาก กฎ โกลาหลที่หลินหมิงต้องทน !.


ในขณะเดียวกัน เขี้ยวมังกรสัมผัสได้ถึงการจ้องมองจากหลินหมิงและหันมามอง รูม่านตาแปรผันของเขาเฉียบคมอย่างหาที่เปรียบ ราวกับว่าเขาสามารถมองผ่านทะลุถึงหัวใจ !


เขี้ยวมังกรเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปีนขึ้นไปต่อ.


แต่ในเวลานี้หลินหมิงเริ่มช้าลง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและตั้งสมาธิรวบรวมความคิด.


หลับตาและทำสมาธิ !


นับตั้งแต่วินาทีแรกที่หลินหมิงสัมผัสกับแท่นผนึกเทวะ เขารับรู้ได้ถึงเศษเสี้ยวแนวคิดจาก กฎ โกลาหล - เศษเสี้ยวแนวคิดจากสวรรค์33ชั้น!

 

เศษเสี้ยวแนวคิด จากกฎ โกลาหลบนแท่นผนึกเทวะนี้ ผู้อื่นอาจจะไม่ได้รับรู้แต่หลินหมิงกับรู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน !.


สวรรค์ชั้น33คือ ?


หลินหมิงไม่สามารถกล่าวได้ชัดเจนว่ามันคืออะไร แต่ที่เขาแน่ใจมันไม่ใช่แค่ตำนานหรือคำโกหกแน่นอน !

.

นั้นเพราะหลินหมิงได้ก้าวผ่านทัณฑ์สวรรค์33ชั้นมาก่อน ซึ่งในนั้นมันยังมี กฎ เต๋าอันยิ่งใหญ่รวมอยู่ด้วย 

.

ดูนั่น! หลินหมิงไม่ขยับแล้ว !


ทุกคนสามารถมองเห็นหลินหมิงหยุดนิ่งในทันที หลินหมิงสามารถติดตามความเร็วของเขี้ยวมังกรได้ แต่ตอนนี้เขากับนิ่งเฉยและถูกเขี้ยวมังกรทิ้งห่างออกไป .


เขาคงพักผ่อนกระมัง ดูเหมือนเขาหมดแรง?”


บนแท่นผนึกเทวะ เหล่านักสู้ไม่อนุญาตให้ลอยตัวขึ้นไป ในสถานการณ์เช่นนี้ เหล่านักสู้เปรียบเสมือนมนุษย์ธรรมดากำลังปีนเขา เมื่อหมดแรงพวกเขาจำเป็นต้องพักเพื่อฟื้นกำลังก่อนจะไปต่อ  


การพักผ่อนนับเป็นเรื่องดี มิเช่นนั้นหากเขาเผาผลาญลมปราณแท้จนหมด เขาจะถูกกำจัดออกจากแท่นผนึกเทวะ.”


ดูเหมือนเขี้ยวมังกรจะสามารถปีนขึ้นไปชั้น32ได้อย่างราบรื่น แต่สำหรับหลินหมิง เขาอาจจะรู้สึกว่ามันยากเกินไป ถึงแม้ตอนนี้เขาจะถูกกำจัดออกไป มันก็ดีมากแล้ว อย่าลืมว่าเขานั้นอยู่เพียงแค่ขั้นเทพสมุทรช่วงต้นขั้นสุดเท่านั้น !”


 ณ หน้าผาระหว่างชั้น31กับชั้น32 หลินหมิงหยุดนิ่งอยู่ที่ความสูง 35,000 ฟุต ที่ความสูงระดับนี้ หากเขาจะถูกกำจัดออกในทันที มันคงไม่มีใครดูถูกเขา เพราะมันไม่มีใครในที่นี้มีคุณสมบัติที่จะทำเช่นนี้ได้ !


 ในอดึตยามแท่นผนึกเทวะถูกใช้เป็นสนามประลองการต่อสู้ในพิภพนักสู้ที่แท้จริง มันมีอัจฉริยะนับไม่ถ้วนถูกกำจัดออกไปก่อนจะถึงชั้น32 !


เขาทำได้ดีมากแล้ว ในช่วงต้นเขาสามารถเอาชนะโยวซูจินได้และปีนขึ้นไปถึง35,000ฟุต ถ้าเขาพักผ่อนเอาแรงเพิ่มและปีนต่อไปได้อีกซัก2ถึง3พันฟุต เขาน่าจะพอใจในความสำเร็จของเขาแล้ว!”


เขี้ยวมังกรปีนขึ้นไปได้45,000ฟุตแล้ว ในขณะที่หลินหมิงยังอยู่ที่35,000ฟุต.


ระหว่างชั้น31กับชั้น32 แม้แต่เขี้ยวมังกรยังต้องปีนขึ้นไปช้าๆ เขาใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการปีนขึ้นไป10,000ฟุต.


หลินหมิงจมอยู่ในสมาธิครึ่งชั่วโมงแล้ว.


เขายังพักอยู่หรือไม่ ? ถึงแม้เขาจะไม่ได้เคลื่อนไหวแต่เขายังต้องรับแรงกดดันอยู่ตลอดเวลามิใช่รึ หรือเขาไม่มีแรงแม้แต่จะขยับแขน?”


หรือเขาจะหมดสติไปแล้ว แต่ที่เขายังไม่ถูกกำจัดออกมันอาจจะเป็นความแข็งแกร่งเฮือกสุดท้ายของเขาที่ยังฝืนทนไว้…?”


ศิษย์พี่หลิน...อดทนไว้ !”

 

 

ศิษย์พี่หลินพยายามเข้า อย่ายอมแพ้ !”


ศิษย์เผ่าฟินิกซ์โบราณต่างร่ำร้องและส่งเสียงเชียร์หลินหมิง.


ปัง !


ขณะที่พวกเขาตะโกนเชียร์หลินหมิง ในที่สุดเกราะลมปราณแท้ของหลินหมิงไม่อาจต้านได้ไหวอีกต่อไป มันถูกพลังจาก กฎ โกลาหลฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ ถึงกระนั้นหลินหมิงยังคงไม่รับรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้.


เปรียะ เปรียะ !


พลังจากกฎโกลาหลกดทับร่างกายของหลินหมิงในทันที ! หน้าผากของเขาเริ่มเต็มไปด้วยเลือด !.


ถึงแม้หลินหมิงจะเปิดประตูแห่งการมองเห็นและหลอมรวมกับกระดูกมังกรจักรพรรดิมาก่อน มันทำให้ร่างกายและผิวหนังของเขามีพลังป้องกันถึงขั้นน่าเหลือเชื่อ แต่ในยามนี้เขาต้องเผาผลาญลมปราณแท้และใช้ความแข็งแกร่งทางกายไปมากมาย และยังเป็นสถานการณ์ที่เขายังไม่ได้เปิดใช้กระดูกมังกรจักรพรรดิและประตูแห่งการมองด้วย เนื่องจากเขายังอยู่ในสมาธิ นี่ถ้าเป็นเทพสมุทรขั้นปลายอยู่ในสถานการณ์เดียวกันพวกเขาย่อมได้รับเจ็บมากกว่านี้แน่นอน


อ้า...ศิษย์พี่หลิน !”


เหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์โบราณต่างเริ่มกรีดร้อง หลังจากเกราะลมปราณแท้หลินหมิงแตก เขาไม่ได้เรียกใช้การป้องกันใดใดเลย !


ศิษย์พี่หลิน ระวัง !”


ถึงแม้เหล่าศิษย์เผ่าฟินิกซ์โบราณจะพยายามร้องบอก แต่พลังงานจาก กฎ โกลาหลยังคงกดทับและพุ่งเข้าหาหลินหมิง !


หากไม่มีการป้องกันใดใด หลินหมิงจะต้องทนต่อผลกระทบจากพลังงานจาก กฎ โกลาหลโดยตรง !


กึก กึก แควก  !


 ร่างหลินหมิงสั่นไหว เสื้อผ้าบนหลังเขาถูกฉีกขาด ผิวของเขาปริแตกพร้อมกับโลหิตไหลริน


พี่หลิน !”


 ฉินชิงเฉวียนร้องออกมาด้วยความตกใจและหวาดกลัวเมื่อมองเห็นฉากนี้


ตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นหลินหมิงหรือเขี้ยวมังกร พวกเขาทั้งสองต่างสร้างเกราะลมปราณแท้ป้องกันพลังงานโกลหลรอบๆตัวไว้อยู่ตลอด ในขณะที่พลังงานโกลาหลกดทับลงมายังพวกเขาทั้งสองเกราะลมปราณแท้จะทำการป้องกันตลอดเวลา แต่มันยังจำเป็นต้องให้เจ้าของร่างกายถ่ายเทลมปราณแท้ประคองเกราะป้องกันอยู่ตลอดด้วยเช่นกัน

แต่บัดนี้หลินดูราวกับหมดสติ เกราะลมปราณแท้ของเขาขาดการหล่อเลี้ยงจากลมปราณแท้มันจึงทำให้เกราะลมปราณแท้พังทลาย ดังนั้นร่างเนื้อของเขาจึงต้องทนต่อการโจมตีจากพลังงานจาก กฎ โกลาหลโดยตรง หากมันเป็นเพียงนักสู้ทั่วไปร่างของพวกเขาคงถูกทำลายสลายไปแล้ว !.


หลินหมิงหมดสติจริงๆ !”


มันต้องมีข้อผิดพลาดอะไรบางอย่าง เขาจะทนต่อการโจมตีขนาดนี้ได้ยังไงหากเขาหมดสติ ขาทั้งสองของเขายังตั้งตรงไม่มีวี่แววว่าจะล้มเลย ?”


ในสายตาของเหล่าผู้ชม หากหมินหมิงหมดสติจริงๆ เขาย่อมถูกกำจัดออกไปแล้ว.


                                                                                              BY nsn

 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Facebook