วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ศิลาลึกลับกับวีรบุรุษ 1254

 

Chapter 1254 – พลังเทวะ

 

เจ้าเด็กนี่ มันกำลังเล่นอะไรของมันอีกในเวลานี้ ฮั่วเล่ยสือ เต็มไปด้วยความวิตกกังวล หากพลังงานโกลาหลมันเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ ชีวิตของหลินหมิงยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีกมิใช่รึ?.


เสี่ยวเต๋าจื่อเองยังคงกังวลเช่นกัน เขาลุกขึ้นยืนในขณะที่กำลังลังเลว่าจะเข้าไปช่วยหลินหมิงดีหรือไม่ ?.


เดิมทีเขาวางแผนที่จะยุติการเข้าร่วมของหลินหมิง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บสาหัสจากพลังงานจาก กฎ โกลาหล อย่างไรก็ตามหลังจากเขาสังเกตหลินหมิงอย่างใกล้ชิด เขาพบว่าหลินหมิงยังไม่ได้หมดสติ จิตสำนึกเขาอยู่ระหว่างครึ่งหลับครึ่งตื่น มันดูคล้ายกับเขากับตระหนักรู้อย่างฉับพลัน !.


เมื่อค้นพบเรื่องดังกล่าว เสี่ยวเต๋าจื่อยิ่งลังเลมากขึ้นไปอีก.


เจ้าเด็กนี้ กับตระหนักรู้ในสถานการณ์เช่นนี้รึ ?


การตระหนักรู้ฉับพลันสามารถพบได้โดยความบังเอิญเท่านั้น แน่นอนว่าเสี่ยวเต๋าจือไม่อาจทำลายช่วงเวลาดังกล่าวนี้โดยธรรมชาติ แต่สภาพของหลินหมิงในยามนี้หากไม่ช่วยเขาอาจจะกลายเป็นศพแทนก็ได้.


มันไม่ใช่เพียงเสี่ยวเต๋าจือเท่านั้นที่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินหมิง  ราชันสวรรค์ฝันเทวะกับราชันสวรรค์เอกอนันต์ ยังสังเกตุเห็นเช่นกัน.


ในยามนี้ เขากับรับรู้ถึง กฎ ? มันดูเหมือนเขาค้นพบ เศษเสี้ยว กฎ ที่อยู่ในแท่นผนึกเทวะ ?


ราชันสวรรค์เอกอนันต์รู้สึกประหลาดใจ กฎ ของแท่นผนึกเทวะ มันคือเศษเสี้ยวกฎ มันคงอยู่ใน33ชั้นของแท่นผนึกเทวะ  กฎนี้มันถูกทิ้งไว้บนแท่นผนึกเทวะโบราณจากส่วนลึกของจักรวาลอันไกลโพ้น ราชันสวรรค์สวรรค์บังเอิญโชคดีได้พบชิ้นส่วนจิตวิญญาณของแท่นผนึกเทวะโบราณ หลังจากใช้เวลายาวนานทำความเข้าใจ ในที่สุดราชันสวรรค์เอกอนันต์จึงสร้างของเลียนแบบขึ้นมาได้สำเร็จ.


เขาตระหนักถึง กฎ จากแท่นผนึกเทวะจริงๆ ข้าคงประเมินเขาต่ำไป แต่มันยังคงน่าเสียดายที่ขอบเขตบ่มเพาะเขาต่ำไป แม้ว่าเขาจะตระหนักรู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเข้าใจมันได้ แม้แต่เขี้ยวมังกรและลูกศิษย์ทั้งสามของข้าที่ได้ชื่อว่ามองผ่านกฎได้ทั้งหมดยังไม่สามารถทำความเข้าใจได้ .”


กฎ จากแท่นผนึกเทวะนั้นเทียบได้กับ กฎจากสวรรค์33ชั้นหรือก็คือ กฎ โกลาหล นั้นยากต่อความเข้าใจมาก อีกทั้งในปัจจุบัน นับตั้งแต่สวรรค์ทั้ง33ชั้นเปลี่ยนไป กฎ โกลาหลได้ถูกตัดออกไปด้วยในเวลาเดียวกัน เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเมื่อเวลา3.6พันล้านปีก่อน !.

 

ถึงแม้ว่าราชันสวรรค์เอกอนันต์จะเป็นผู้สร้างแท่นผนึกเทวะเลียนแบบขึ้นมา แต่เขาเองยังคงไม่ได้เข้าใจใน กฎ โกลาหลมากนัก เขายังไม่สามารถเทียบกับชายชราชุดเทาที่แอบดูการต่อสู้บนแท่นผนึกเทวะเลียนแบบได้ ชายชราผู้นี้คือจิตวิญญาณของแท่นผนึกเทวะ !.


จิตวิญญาณแท่นผนึกเทวะ ถูกหลอมสร้างโดยราชันสวรรค์เอกอนันต์ โดยใช้เศษชิ้นส่วนวิญญาณจากแท่นผนึกเทวะโบราณผสานรวมเข้ากับจิตวิญญาณสัตว์เทวะและความเข้าใจในกฎ โกลาหลของราชันสวรรค์เอกอนันต์ สิ่งนี้นับเป็นความภูมิใจที่สุดของราชันสวรรค์เอกอนันต์ อย่างไรก็ตามในเรื่องความเข้าใจในกฎ เขายังต้องทำความเข้าใจวนไปวนมาราวกับเป็นวัฏจักร และอาจจะเป็นเพราะเขาไม่มีลูกบาศ์ศักดิ์สิทธิเหมือนหลินหมิง เขาจึงไม่สามารถซึมซับและทำความเข้าใจมันได้โดยตรงเช่นหลินหมิง .

 

 

อืม..ดูๆแล้วมันช่างเสมือนลูกแมวไม่กลัวเสือ เจ้าเด็กนี่มันตระหนักได้ถึง กฎ โกลาหลที่แทรกซึมอยู่ในแท่นผนึกเทวะได้ นี่นับเป็นความสำเร็จอย่างมาก ร่างกายของเจ้าเด็กนี่ต้องมีอะไรพิเศษบางอย่าง.”


ขณะที่ราชันสวรรค์เอกอนันต์กำลังกล่าว หญิงสาวชุดขาวด้านข้างยังคงจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยดวงตาสดใส ลักษณะท่าทางของเธอราวกับกำลังครุ่นคิดเรื่องราวบางอย่างอยู่ .


ฝันเทวะ เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ ?”


หญิงชุดขาวยิ้มบางๆก่อนจะกล่าวว่า ที่ข้ารู้สึกแปลกๆ มันเป็นเพราะร่างกายเจ้าหนุ่มนี่มีกลิ่นอาย กฎ มายาเทวะอยู่…”


กฎ มายาเทวะ มันจะเป็นไปได้รึ ? นี่มันกฎของเจ้าไม่ใช่รึ โอ้..จริงสิ เจ้าหนุ่มนี่ได้เข้าไปในดินแดนมายาเทวะของเจ้ามาก่อน บางที่เขาอาจจะได้ดูดซับจิตวิญญาณพื้นฐานมาจากที่นั้น ดังนั้นมันจึงมีกลิ่นอายเบาบางบนร่างกายของเขา .”


ราชันสวรรค์คาดเดาความเป็นไปได้ถึงเรื่องดังกล่าว ในขณะที่หญิงสาวชุดขาวยังคงเงียบ เธอรู้สึกว่ากลิ่นอายจาก กฎ มายาเทวะบนร่างกายหลินหมิงมันไม่เรียบง่ายเช่นนั้น.


ณ เวลานี้พลังงานจากกฎ โกลาหลสองสายเริ่มส่งผลกระทบกับหลินหมิง.


ไหล่ของหลินหมิงเกือบหัก ในขณะที่โลหิตเริ่มไหลรินเต็มไหล่.


ในเวลาไม่นานแขนขวาเริ่มได้ผลกระทบทั้งท่อนแขนเต็มไปด้วยโลหิต.


ในสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อแขนและไหล่บาดเจ็บ มันเกือบจะเหมือนกับการยุติการต่อสู้แล้ว ต้องทราบว่านักสู้จำเป็นต้องใช้แขนและขาที่สมบูรณ์เพื่อที่จะต้านทานแรงกดดันมหาศาลจากกลิ่นอายของราชันสวรรค์ที่หลั่งไหลลงมาจากด้านบนแท่นผนึกเทวะ


มันจบแล้ว! ข้าไม่รู้ว่าหลินหมิงกำลังทำอะไรอยู่ แต่แขนขวาของเขาได้รับบาดเจ็บแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปต่อ


ข้ากลัวว่าเขา น่าจะหมดสติไปแล้ว !”


ณ เวลานี้หลินหมิงไม่ได้รู้สึกหรือได้ยินเสียงตะโกนใดใดเลย เขายังจมอยู่ในห้วงการตระหนักรู้อย่างฉับพลัน.


ตลอดเวลาที่หลินหมิงเริ่มปีนขึ้นชั้น32ของแท่นผนึกเทวะ เขาได้เปิดใช้เกราะลมปราณแท้เพื่อต่อต้านการโจมตีและลดแรงกดดันจากแท่นผนึกเทวะมาตลอด.


ด้วยพลังลมปราณแท้ที่หนาแน่น การฝึกฝนขัดเกลาที่ผ่านมา รวมถึงรากฐานที่มั่นคงและความเข้าใจในกฎ การทนต่อพลังงานจาก กฎ โกลาหลนี้และปีนขึ้นไปชั้น32ยังไม่นับเป็นปัญหาสำหรับหลินหมิง


แต่การกระทำเช่นนั้นมันคือขีดจำกัดของหลินหมิง.

 

เมื่อหลินหมิงคิดเกี่ยวกับมัน เขาค้นพบว่าการใช้เกราะลมปราณแท้ป้องกันมันเป็นวิธีการที่ผิดโดยสินเชิง !


สิ่งนี้เปรียบเสมือนยามเมื่อมนุษย์ต้องการปรับเปลี่ยนแม่น้ำเพื่อหยุดน้ำท่วม ถ้าพวกเขาเพียงควบคุมแต่แม่น้ำเท่านั้น ในไม่ช้าสิ่งที่กักกันย่อมแตกออกเป็นเสี่ยงๆจากกระแสน้ำที่รุ่นแรงตามธรรมชาติ


มีเพียงยกเลิกสิ่งกีดขวาง ขยายพื้นที่และสร้างอ่างเก็บน้ำเท่านั้นจึงสามารถควบคุมสายน้ำได้.


หลินหมิงเองในยามนี้ ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆกัน เขาไม่ได้เปิดใช้เกราะลมปราณแท้เพื่อต่อต้านพลังงานจาก กฎ โกลาหล แต่กับใช้ร่างกายรองรับแทน และนั้นเป็นการสัมผัสถึงพลังงานจากกฎ โดยตรงและยังทำให้หลินหมิงสามารถส่งพลังงานจาก กฎ โกลาหลเข้าสู่เส้นลมปราณของเขาได้ในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าเขาย่อมสามารถตระหนักรู้ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งพลังงานดังกล่าวได้อีกด้วย แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสเช่นกัน การกระทำเยี่ยงนี้มันอาจจะทำให้เส้นลมปราณของเขาถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ ! .


อย่างไรก็ตามหากหลินหมิงสามารถปรับแต่งพลังงานจากกฎ โกลาหลได้ เขาย่อมสามารถควบคุมมันได้ในระดับหนึ่งและทำให้มันกลายเป็นของตัวเอง หากเขาทำได้สำเร็จ เขาไม่เพียงแต่สามารถปีนขึ้นไปบนแท่นผนึกเทวะเท่านั้น แต่เขายังคงได้เปรียบอย่างมากอีกด้วย  !


กฎ โกลาหลจากสวรรค์33ชั้นนั้นลึกลับเป็นอย่างมาก หากนักสู้ทั่วไปต้องการศึกษามัน นั้นเปรียบได้กับการกระทำของคนโง่เขลา.


แต่มันไม่ใช่กับหลินหมิง เขานั้นข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์33ชั้นมาแล้ว สำหรับหลินหมิงมันมีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ !


ขณะที่ทุกคนกำลังกล่าวสนทนากัน พลังงานจาก กฎ โกลาหลอีกระลอกซึ่งดูเหมือนมันจะมากกว่าเดิม กำลังพุ่งตรงเข้าหาศีรษะของหลินหมิง !


หากพลังงานจาก กฎ โกลาหลลูกนี้กดทับหลินหมิง เขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ !


กระนั้นหลินหมิงยังคงหยุดนิ่งอยู่เช่นเดิม มันราวกับว่าเขานั้นไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งใดใดรอบข้างเลย !


เสี่ยวเต๋าจือ สายตาหดแคบลง ในขณะที่กำลังจะเคลื่อนไหว อย่าขยับ!” เสียงหนึ่งดังก้องในจิตใจเขา


 เสี่ยวเต๋าจือหยุดนิ่งในทันที เสียงนี้เป็นเสียงของชายชราชุดเทา เขาคือจิตวิญญาณสิ่งประดิษฐ์แท่นผนึกเทวะ ที่กำลังจัดการทุกอย่างบนแท่นผนึกเทวะอย่างลับๆ


ชายชราชุดเทาผู้นี้เป็นบุคคลที่แม้แต่ราชันสวรรค์เอกอนันต์ยังต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพดุจเดียวกับบุคคลในระดับเดียวกัน และ ยังเรียกชายชราชุดเทาผู้นี้ว่า ผู้เฒ่าตราประทับ นี้ย่อมไม่ต้องกล่าวถึงเสี่ยวเต๋าจือว่าจะต้องเคารพเขาขนาดไหน


 

ดังนั้นในยามนี้ เสี่ยวเต๋าจือทำได้เพียงหยุดนิ่ง และมองดูพลังงานจาก กฎ โกลาหล กำลังพุ่งชนหน้าผากหลินหมิง!

 

ปัง!

 

โลหิตสีแดงสาดกระเซ็น หน้าผากหลินหมิงเต็มไปด้วยโลหิต !


พี่หลิน !”

 

ฉินชิงเสวียน ร้องออกมาเมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของหลินหมิง นิ้วและเสียงของเธอสั่นด้วยความหวาดกลัว

.

ทำไม พวกเขายังไม่ยุติการประลอง ?”


ผู้อาวุโสเสี่ยวเต๋าจือกำลังทำอะไร ? ถ้าเขาไม่ยุติการประลอง ศิษย์พี่หลินจะต้องตายแน่ !”


ท่านอาจารย์ ! ท่านต้องช่วยศิษย์พี่หลินหมิงนะ !”


หญิงสาวหลายคนจากเผ่าฟินิกซ์โบราณ เริ่มอ้อนวอนอาจารย์ของตน.


เหล่าศิษย์จากเผ่าฟินิกซ์โบราณ ต่างตกตะลึงและตื่นตระหนกในเวลาเดียวกัน นี่ไม่นับว่าแปลกแต่อย่างใด การที่จะมีอัจฉริยะผู้ไร้เปรียบปรากฎขึ้นในเผ่า นับเป็นเรื่องยากอย่างมากสำหรับเผ่าฟินิกซ์โบราณ แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับอัจฉริยะผู้นั้นล่ะ ? นี่มันไม่ใช่เพียงแค่ทำลายเส้นทางชีวิตของพวกเขาเท่านั้น ?


พวกเจ้าทั้งหมด หุบปาก !”


ฮัวเล่ยสือถ่ายเทลมปราณแท้ลงในเสียงก่อนที่จะเปล่งเสียงคำรามดังสนั่น หยุดความวุ่นวายของเหล่าสาวกทั้งหมดบริเวณรอบๆ  .


ถึงแม้เขาเองยังคงตื่นตระหนกเช่นกัน แต่เขายังรู้สึกว่า เสี่ยวเต๋าจือไม่เคลื่อนไหวเช่นนี้ ย่อมต้องมีเหตุผลบางอย่าง.


พวกเจ้าคิดว่ามองสถานการณ์ในตอนนี้ได้ดีกว่าท่านเสี่ยวเต๋าจือ รึ? หุบปากแล้วนั่งลงซะ !”


หลังจากฮัวเล่ยสือตวาด เหล่าสาวกเผ่าฟินิกซ์โบราณทั้งหมด เงียบสนิทในทันทีก่อนที่จะนั่งลง.


ดวงตาฉินเชิงเสวียนเปียกไปด้วยน้ำตา ในขณะที่เธอจับมือมู่เฉียนหยู่ไว้แน่น.


ใกล้ๆกันนางฟ้าเฟิง กำหมัดแน่นในขณะที่มองไปทางหลินหมิงอย่างใจจดใจจ่อ


ในขณะเดียวกัน พลังงานจาก กฎ โกลาหลยังคงพุ่งเข้าหาหลินหมิง ถึงกระนั้นร่างกายของหลินหมิงยังคงต้านทานพลังงานจาก กฎ โกลาหลอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน.


ณ ยามนี้ร่างกายของหลินหมิงเต็มไปด้วยโลหิต มันราวกับมีใครเทถังน้ำสีแดงราดบนตัวเขา ไม่ต้องกล่าวถึง ฉินเชิงเสียน มู่เฉียนหยู่ นางฟ้าเฟิง หรือ เหล่าศิษย์จากเผ่าฟินิกซ์โบราณ แม้แต่เหล่าผู้ชมและผู้เข้าร่วมทังหลาย ต่างเพ่งมองไปที่ร่างของหลินหมิงด้วยความหวาดกลัว


หลินหมิงกำลังทำอะไร ?”

 

ใช่ ทำไมเขายังไม่ยอมลงมาอีก เขาไม่ควรเอาชีวิตมาล้อเล่นเช่นนี้ !”


บาดแผลเขาสาหัสเกินเกินไป เขาจะตายในไม่ช้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป !”


เหล่าศิษย์บางคนกังวลเกี่ยวกับหลินหมิง ในขณะที่บางคนแสดงออกได้ถึงความสุขเมื่อเห็นหลินหมิงในสภาพนี้.

นี่นับเป็นเรื่องปกติเสมอมาของมนุษย์ ในหมู่พวกเขาย่อมมีหลายคนที่หวังให้คนที่แข็งแกร่งกว่าตนตายไปซะ โดยเฉพาะกับเหล่าศิษย์จากดินแดนนภาทมิฬที่ถูกทำให้อับอาย พวกเขาล้วนอยากจะเห็นหลินหมิงทุกข์ทรมานมากกว่านี้.


ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าโง่หลินหมิง ข้าคิดว่าเขาคงจะตายที่นี่ในไม่ช้า !.”


ข้ามองไม่เห็นว่าสิ่งใดกำลังโจมตีหลินหมิง แต่หลินหมิงกับต้านทานด้วยร่างกาย มันช่างโง่เขลายิ่งนัก ฮึ ฮึ ฮึ แต่มันเป็นเรื่องดีเช่นกัน ตีมัน ตีมันให้หนักกว่านี้ !”


ความเป็นจริงบ่งบอกว่า เหล่าศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธินภาทมิฬ ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานจาก กฎ โกลาหล พวกเขาเพียงแค่เห็นร่างกายของหลินหมิงถูกโจมตีด้วยอะไรบางอย่าง มันอาจจะดูแปลกประหลาดไปบ้าง แต่พวกเขายังรู้สึกยินดีบนความทุกข์ของหลินหมิง ถึงกระนั้นพวกเขาเองยังไม่กล้าที่จะตะโกนเสียงดัง ทำได้เพียงคุยกันเบาๆในกลุ่มของตนเท่านั้น เสียงของพวกเขาจมหายไปท่ามกลางเสียงตะโกนจากผู้ชมรอบๆนับพันล้าน.


เวลานี้ โยวซูจินก้าวออกจากแท่นผนึกเทวะแล้ว ถึงกระนั้น โยวซูจินยังคงเพ่งมองไปที่หลินหมิง เช่นเดียวกับผู้อื่น ในขณะที่มองไปที่บาดแผลของหลินหลิง นัยน์ตาเย็นเยียบไปด้วยความอันตราย ก่อนจะพึมพำเสียงเบาว่า แม้ว่าข้าจะยังไม่รู้ว่าสิ่งใดกำลังพยายามทำลายหลินหมิงอยู่ในตอนนี้ และ ไม่รู้ว่าหลินหมิงกำลังทำอะไร แต่สถานการณ์ในตอนนี้ของเขาค่อนข้างอันตรายมาก ถึงกระนั้นทำไมเสี่ยวเต๋าจือยังไม่เคลื่อนไหว ? แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจริงๆ นั้นมันคงเป็นอะไรที่สบายมากเกินไป ....


นัยน์ตาสีแดงเข้มของโยวซูจินเรืองแสงประกายด้วยความอำมหิต ในขณะที่พลังงานจาก กฎ โกลาหลเริ่มรวมตัวกันมากขึ้นด้านหลังหลินหมิง การไหลของพลังงานกลุ่มนี้แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้าหลายเท่า อีกทั้งทิศทางของพลังงานนี้กับพุ่งตรงไปยังศีรษะของหลินหมิง !


เหนือแท่นผนึกเทวะ เสี่ยวเต๋าจือเพ่งความสนใจไปที่หลินหมิงมากขึ้น สมาธิของเขาจดจ่ออยู่กับหลินหมิงอย่างสมบูรณ์ เขาพร้อมที่จะเคลื่อนไหวได้ทุกเวลา.


แต่ในคราวนี้กับเกิดเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อขึ้น !!


เมื่อกลุ่มก้อนพลังงานจากกฎโกลาหลพุ่งเข้าหาหลินหมิง มันกับถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน กลุ่มก้อนพลังงานกว่า90% เปลี่ยนทิศทางไปด้านข้าง ส่วนกลุ่มก้อนพลังงานที่เหลือ10% กับพุ่งเข้าหาศีรษะของหลินหมิงก่อนจะจมหายไปอย่างไร้ร่องรอย !


อะไร!?”


เสี่ยวเต๋าจือตกะลึง ภาพที่เห็นมันดูราวกับหลินหมิงกำลังดูดซับพลังงานจากกฎโกลาหล !


ในกลุ่มผู้ชมทั้งหมดไม่มีแม้แต่คนเดียวรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงจิตวิญญาณสิ่งประดิษฐ์แท่นผนึกเทวะ เสี่ยวเต๋าจือ ราชันสวรรค์เอกอนันต์ หญิงสาวชุดขาว ที่เฝ้ามองจากพระราชวังสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ! .


พลังงานจาก กฎ โกลาหลที่หลินหมิงดูดซับไป มีชื่ออีกหนึ่งเป็นนามเฉพาะ คือ พลังเทวะ !



                                                                                BY NSN




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Facebook